เลนส์โปรเกรสซีฟ กับเหตุผลที่ควรได้ทดลองเลนส์ก่อนตัดสินใจซื้อ

    การมองเห็นที่ชัดเจนในทุกระยะ คือสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การมองเห็นอาจไม่ตอบสนองต่อทุกระยะได้เหมือนเดิม ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจ "เลนส์โปรเกรสซีฟ" ทางเลือกที่ตอบโจทย์การทุกการมองเห็น แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟคู่แรก ในบทความนี้ เราพาคุณไปทำความเข้าใจว่า ทำไมควรลองเลนส์โปรเกรสซีฟก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้คุณได้เลือกสิ่งที่ดี และคุ้มค่ามากที่สุด

เลนส์โปรเกรสซีฟคืออะไร?

 

     Progressive Lens หรือ เลนส์โปรเกรสซีฟ คือ เลนส์แว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการมองเห็นหลายระยะในเลนส์เดียว ทั้งมองไกล มองกลาง และมองใกล้ โดยมีจุดน่าสนใจตรงที่ภายในเลนส์ จะไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างระยะต่าง ๆ เหมือนกับเลนส์สองชั้น (Bifocal) หรือสามชั้น (Trifocal) ทั่วไป ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟมีลักษณะเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ และสวยงามกว่า ทำให้ดูเหมือนแว่นสายตาปกติ สามารถใช้ได้กับกิจกรรมและในชีวิตประจำวัน เช่น ขับรถ ใช้งานคอมพิวเตอร์ ใช้มือถือ อ่านหนังสือ ฯลฯ เลนส์โปรเกรสซีฟเหมาะกับใคร? จะเหมาะกับบุคคลกลุ่มนี้ค่ะ

• ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีปัญหาสายตายาวตามอายุ
  
• ผู้ที่ไม่อยากพกแว่นหลายอัน
  
• ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานหลายระยะในแว่นเดียว 

 ภาพจาก : www.rodenstock.com

    แต่ถึงอย่างไรก็มีสาเหตุใส่เลนส์โปรเกรสซีฟไม่ได้ เช่นกัน นั่นอาจเกิดจากการเลือกกรอบแว่นไม่เหมาะกับเลนส์ ค่าสายตาเลนส์ไม่ตรงกับค่าสายตาจริง โครงสร้างเลนส์ไม่เหมาะสม หรือผู้จ่ายเลนส์ยังไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ดังนั้นการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ จึงต้องเลือกตัดเลนส์กับผู้มีประสบการณ์ และต้องมีการ ทดลองใช้งานเลนส์ ก่อนใช้งานจริง เพื่อให้ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด

ทำไมถึงควรทดลองโปรเกรสซีฟเลนส์ ก่อนซื้อ?

1. เพื่อให้ผู้ใช้งาน เข้าใจถึงธรรมชาติของโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟ ว่ามีมุมมองเป็นอย่างไร

• เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่มีหลายค่าสายตาในหนึ่งเลนส์ โดยส่วนบนของเลนส์จะเป็นค่าสายตาสำหรับมองไกล ค่าสายตาจะค่อย ๆ ไล่ระดับลงมาสู่ค่าสายตาสำหรับมองกลาง และมองใกล้
• ด้านข้างของเลนส์จะมีภาพมัว ๆ หรือที่เรียกว่า Distortion ซึ่งเกิดมาจากการขัดไล่ค่าสายตา ตั้งแต่มองไกลมามองใกล้
• โดยค่า Distortion เหล่านี้ ปัจจุบันสามารถกำจัด Distortion ออกได้ทั้งหมด แต่ทั้งนี้จะมีมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบโครงสร้างเลนส์แต่ละรุ่น ยิ่งโครงสร้างเลนส์รุ่นสูง ๆ พื้นที่ Distortion ก็จะยิ่งน้อยลง

2. เพื่อให้ผู้ใช้เห็นภาพการใช้งานจริง เมื่อใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ

3. เพื่ออธิบายวิธีการใช้งานและคำแนะนำในการมอง

• เช่น หากต้องการมองไกล ควรมองผ่านส่วนบนของเลนส์ หรือเลื่อนแว่นลงมาเล็กน้อย เพื่อให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้น และรู้สึกสบายตาเวลามองระยะไกล เพราะถ้าเลื่อนแว่นขึ้นสูงเกินไป ส่วนของเลนส์ที่ใช้มองกลางและใกล้จะบังสายตา ทำให้มองเห็นพื้นไม่ชัด หรือรู้สึกเหมือนพื้นลอย ๆ จนอาจทำให้รู้สึกเวียนหัวหรือไม่สบายตาได้
  
• หากใช้งานระยะคอมพิวเตอร์ ควรเหลือบตามองผ่านส่วนกลางของเลนส์ แต่ถ้าลูกค้าใช้คอมพิวเตอร์แล้วรู้สึกว่าเหลือบตาลงมายังเห็นไม่ชัด อาจต้องเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ตามองผ่านส่วนกลางของเลนส์ วิธีช่วยให้มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ชัดเจนขึ้น แต่หากเงยหน้าแล้วรู้สึกเมื่อยคอ แนะนำให้ปรับเก้าอี้นั่งให้สูงขึ้น หรือปรับโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เตี้ยลง เพื่อให้ระดับสายตาตรงกับส่วนกลางของเลนส์ได้พอดี ช่วยให้ไม่ต้องเงยหน้า แค่กรอกตามองผ่านส่วนกลางของเลนส์ก็จะมองคอมพิวเตอร์ได้ชัดเจน
  
• หากต้องการอ่านหนังสือให้ชัด ควรเหลือบตามองผ่านส่วนล่างของเลนส์ และสามารถดันแว่นขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้เหลือบตาอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้นและรู้สึกสบายตามากขึ้น
  
• แต่หากเผลอเหลือบตามองไปที่ด้านข้างของเลนส์ จะเจอภาพบิดเบือน (Distortion) แนะนำให้หันหน้าไปมองตรง ๆ แทน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน

4. เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้ข้อกำกัดของเลนส์โปรเกรสซีฟ 

อย่างที่ทราบกันดีว่า เลนส์โปรเกรสซีฟไม่สามารถมองได้ทั่วทั้งเลนส์ เนื่องจากมีภาพบิดเบือน (Distortion) บริเวณด้านข้าง และพื้นที่สำหรับมองระยะกลางจะค่อนข้างแคบ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ใช้งาน ที่ต้องใช้งานระยะกลางนาน ๆ เช่น หากต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน อาจทำให้รู้สึกเมื่อยคอ เพราะต้องเงยหน้าหรือปรับมุมมองบ่อย ๆ ในกรณีนี้ แนะนำให้พิจารณาใช้เลนส์เฉพาะทางสำหรับการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์แทน เพราะจะได้ภาพที่สบายตา และลดอาการเมื่อยได้มากกว่า

5. เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกกรอบแว่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ชิดหรือห่างจากหน้ามากเกินไป เช่น

• หากเลือกกรอบชิดหน้าไปก็จะทำให้อ่านหนังสือได้ยาก
  
• หากเลือกกรอบที่ห่างหน้าไปก็จะเจอกับภาพบิดเบือน ที่รบกวนการมองเห็น

6. เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้งานเข้าใจ ว่าต้องมีการปรับพฤติกรรมการมอง และท่าทางให้กับเข้าเลนส์โปรเกรสซีฟ 

    หากผู้ใช้งานสามารถยอมรับข้อจำกัดต่าง ๆ ของเลนส์โปรเกรสซีฟได้ ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในทางกลับกัน หากรู้สึกว่าปรับตัวได้ยาก หรือไม่ค่อยเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาจพิจารณาเลือกเลนส์ชนิดอื่นแทน เช่น เลนส์สองชั้น เลนส์ชั้นเดียว หรือเลนส์เฉพาะทาง เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้มากที่สุด

7. เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้ว่าตัวเองเหมาะกับการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ไหน

   สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อน ในการจะเลือกใช้แบรนด์ที่เหมาะสมกับตัวเอง ต้องอาศัยการทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟแต่ละแบรนด์ เพราะแต่ละเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป การได้ทดลอง จะได้ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายตาสูงสุด

ทางร้านแว่นตา Dr.Ouise เรามีเลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟให้ทดลองทุกแบรนด์ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

ภาพจาก : www.optixgallery.com

เลนส์โปรเกรสซีฟตัวทดลอง สำคัญแค่ไหน

โดยปกติแล้ว ร้านแว่นตาหรือคลินิกส่วนใหญ่จะมี เลนส์โปรเกรสซีฟตัวทดลอง (Trial Progressive Lens) ให้ลูกค้าทดลองใส่ก่อนตัดสินใจ ซึ่งเลนส์ตัวทดลองนี้จะมีลักษณะเป็นเลนส์กลม ๆ ที่มีที่จับอยู่ โดยทั่วไปจะมีค่า Addition ให้ลอง ตั้งแต่ +1.00 ถึง +3.00 DS และเลนส์ตัวทดลองมีหลายยี่ห้อ หลายโครงสร้าง ขึ้นอยู่กับว่าทางร้านเลือกใช้แบรนด์ไหนและรุ่นใด ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมี โครงสร้าง ความชัด และความสบายตา ที่แตกต่างกันไป ส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ว่ารู้สึกสบายตาและมองเห็นชัดเจนกับเลนส์แบบไหนมากที่สุด

บทความโดย

หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย

จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

สาขาของเรา

• DR.OUISE EYE CLINIC 
  ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
  เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.

• DR.OUISE EYE SPECIALIST
  ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B 
  เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
  เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.