เลนส์สองชั้น Vs เลนส์โปรเกรสซีฟ เลือกอย่างไรเมื่อเข้าสู่วัยสายตายาว

เลนส์สองชั้น Vs เลนส์โปรเกรสซีฟ เลือกอย่างไรเมื่อเข้าสู่วัยสายตายาว
เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนต้องเผชิญกับภาวะ สายตายาวตามวัย (Presbyopia) ทำให้มองใกล้ไม่ชัดเหมือนเดิม ซึ่งแว่นตาที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้มีหลายชนิด โดยในอดีต เลนส์สองชั้น (Bifocal) เคยเป็นไอเทมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้มองได้ทั้งใกล้และไกลโดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่น แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีเลนส์ก้าวหน้าไปไกล กระทั่งกลายเป็น เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) ที่ช่วยให้การมองเห็นต่อเนื่องทุกระยะ และกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของคนที่ต้องการความสะดวกสบายมากกว่า บทความนี้หมอขอมาเปรียบเทียบความต่าง ของเลนส์ทั้งสองประเภทกันค่ะ
เลนส์สองชั้น กับเลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร? เรื่องที่คนสายตายาวต้องรู้

ภาพจาก : https://th.ac-illust.com/clip-art/ 23309133/
เลนส์สองชั้น (Bifocal Lens)
สำหรับเลนส์สองชั้น หรือ Bifocal Lens เป็นเลนส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสายตายาวตามวัย ของผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ผ่านการประกบเลนส์ 2 ส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อแบ่งพื้นที่การมองเป็นสองโซนที่ชัดเจน ได้แก่
- โซนบน สำหรับการมองระยะไกล เช่น การใส่แว่นเดิน การขับรถ ขึ้นลงบันได หรือมองวัตถุไกล ๆ
- โซนล่าง สำหรับการมองระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือ ดูมือถือ เขียนเอกสาร ฯลฯ
การใช้งานต้องอาศัยการกลอกตาขึ้นลงเพื่อสลับระยะการมอง โดยข้อดีคือได้ความชัดเจนในสองระยะหลักทันที แต่ข้อเสียคือเกิด ภาพกระโดด ระหว่างการเปลี่ยนโซน และมองไม่ถนัดในระยะกลาง เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือคอนโซลรถ อีกทั้งยังมีเส้นแบ่งเลนส์ที่มองเห็นได้ชัด

เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)
เลนส์โปรเกรสซีฟ หรือที่หลายคนเรียกว่า เลนส์ไร้รอยต่อ เป็นเลนส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การมองเห็นทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นระยะไกล ระยะกลาง หรือระยะใกล้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เลนส์หลายคู่ ที่สำคัญคือไม่มีเส้นแบ่งเหมือนเลนส์สองชั้น (Bifocal) แบบดั้งเดิม โดยความพิเศษของเลนส์โปรเกรสซีฟ คือการผสมผสานค่าสายตาที่เปลี่ยนแปลงอย่าง ไล่ระดับ จากบนลงล่างของเลนส์ ทำให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น
- มองไกล : มองถนน ป้ายบอกทาง หรือชมวิวได้ชัดเจน
- มองกลาง : เหมาะสำหรับการใช้คอมพิวเตอร์ ทำงานเอกสาร หรือสนทนากับผู้อื่น
- มองใกล้ : อ่านหนังสือ เช็กมือถือ หรือดูรายละเอียดเล็ก ๆ ได้อย่างสบายตา ไม่ต้องเพ่ง
การใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ จะให้ความรู้สึกที่ต่อเนื่อง ลื่นไหล และใกล้เคียงการมองเห็นตามธรรมชาติ อีกหนึ่งข้อดีสำคัญคือ ในเรื่องของความสวยงาม เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟไม่มีรอยเส้นแบ่งที่เห็นชัดเหมือนเลนส์สองชั้น จึงทำให้ผู้สวมใส่ดูทันสมัย ไม่รู้สึกเหมือนกำลังใส่แว่นของผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกโอกาส
ความแตกต่าง เลนส์สองชั้น Vs เลนส์โปรเกรสซีฟ แก้สายตายาว
| ความแตกต่าง | เลนส์สองชั้น | เลนส์โปรเกรสซีฟ |
| การมองเห็น | มองได้ 2 ระยะ: ไกล-ใกล้ | มองได้ครบ 3 ระยะ: ไกล-กลาง-ใกล้ |
| ความต่อเนื่องของภาพ | มีภาพกระโดดระหว่างโซน | ภาพไหลลื่นต่อเนื่อง |
| ดีไซน์การออกแบบ | มีเส้นแบ่งโซนที่เห็นชัด ใส่แล้วอาจดูมีอายุ | ไม่มีเส้นแบ่ง ดูทันสมัย ให้ความสวยงามแบบเป็นธรรมชาติ |
| การใช้งาน | เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือและมองไกล | เหมาะกับทุกกิจกรรม รวมถึงการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ |
| การเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้เลนส์ | มัลติโค้ท, เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ, เลนส์กรองแสงสีฟ้า, เลนส์ย้อมสี | มัลติโค้ท, เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ, เลนส์กรองแสงสีฟ้า, เลนส์ย้อมสี |
| ข้อจำกัด |
|
|
| ราคา | เข้าถึงง่ายกว่า | สูงกว่า แต่คุ้มค่าในระยะยาว |
ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟถึงตอบโจทย์คนสายตายาวได้มากกว่า Dr.Ouise มีคำตอบ
1. ช่วยให้การมองเห็นครบทุกระยะ
เลนส์โปรเกรสซีฟถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมทุกระยะมอง ทั้งใกล้ กลาง และไกล ซึ่งแตกต่างจากเลนส์สองชั้นที่มีเพียง 2 ระยะคือใกล้กับไกล ทำให้ผู้ใช้เลนส์สองชั้นมักพบปัญหาเวลาทำงานกับคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต เนื่องจากจออยู่ในระยะ กลาง พอดี ส่งผลให้เกิดความไม่สบายตาหรือมองเห็นไม่ชัด ในขณะที่เลนส์โปรเกรสซีฟรองรับระยะกลางโดยเฉพาะ จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกับหน้าจอตลอดทั้งวันได้ดีกว่า
2. ไม่มีเส้นแบ่งโซน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามกว่า
การไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่าระยะต่าง ๆ ช่วยให้ผู้สวมใส่ได้ภาพที่มีความต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพราะตัวเลนส์ถูกออกแบบมาให้มีความไร้รอยต่อ ใส่แล้วจึงช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดูดีและทันสมัย
3. ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุจากภาพกระโดดเวลาเปลี่ยนระยะมอง
หมดปัญหาภาพกระโดด เมื่อต้องเปลี่ยนระยะการมอง ช่วยให้สมองไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวกับความแตกต่างของโฟกัส ไม่เวียนศีรษะ ปรับสมดุลการมองและการใช้ชีวิตได้ดี จึงช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการสวมแว่นได้มาก
4. ปรับตัวแล้วใช้งานได้สะดวกในทุกกิจกรรมประจำวัน
แม้ในช่วงแรก ผู้ใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ อาจต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการปรับตัว แต่เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของร้านแว่นโดยจักษุแพทย์ และรู้สึกคุ้นเคยแล้ว จะพบว่าเลนส์ชนิดนี้สามารถใช้งานได้สะดวกในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นขับรถ ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ หรือออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนแว่นไปมา ถือเป็นความสะดวกที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
สรุป
เลนส์สองชั้น (Bifocal) อาจเป็นทางเลือกที่คุ้นเคยและช่วยแก้ปัญหามองใกล้ไกลได้ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องระยะกลางและเส้นแบ่งเลนส์ที่ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ต่างจากเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) ที่ออกแบบมาให้ครอบคลุมทุกระยะ มองเห็นได้ลื่นไหล สวยงาม และสะดวกกับการใช้ชีวิตยุคใหม่ได้มากกว่า
หากคุณเริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นไม่ชัดเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ทำงานหน้าคอม หรือขับรถ ให้ Dr.Ouise Eye Clinic (คลินิกตาหมออุ๊ย) คลินิกศูนย์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก ดูแลสายตาของคุณ เรามีจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมเครื่องมือตรวจวัดสายตาที่ทันสมัย เพื่อช่วยเลือกเลนส์ที่พอดีกับการใช้งาน และตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ให้คุณใส่แล้วสบายตา มองชัด และมั่นใจในทุกวัน
อ้างอิง
- A Zanen. [The advantages and disadvantages of bifocal lenses]. 1997:264:71-8. PMID: 9490160
- A L Cohen. Diffractive bifocal lens designs. 1993 Jun;70(6):461-8. doi: 10.1097/00006324-199306000-00003.
- Maradula Gangawar, Devanshi Dalal, Ashwin Gupta and Dhaivat Shah. Unifocal vs bifocal vs
- progressive glasses: Which one to choose?. DOI: https://doi.org/10.33545/26638266.2022.v4.i2a.124
บทความโดย
หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

สาขาของเรา
- DR.OUISE EYE CLINIC
- ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.
- DR.OUISE EYE SPECIALIST
- ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
- เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.







