เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร?

รวมครบทุกเรื่องก่อนตัดสินใจ อัปเดตปี 2026

เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร? เจาะลึกครบทุกมิติ พร้อมเคล็ดลับเลือกให้ใส่สบายที่สุด

เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร รวมครบทุกเรื่องก่อนตัดสินใจ อัปเดตปี 2026

สวัสดีค่ะ หมออุ๊ย ขอทักทายคุณผู้อ่านทุกท่านที่เริ่มเข้าสู่ช่วง 40 ปีขึ้นไป ที่มักจะมีอาการ สายตายาวตามวัย ทำให้การมองใกล้เริ่มเป็นปัญหา ต้องยื่นแขน หรือพกแว่นหลายอัน ซึ่งอาจทำให้เสียบุคลิกและไม่สะดวก วันนี้เรามีทางออกที่ทันสมัยและดีกว่ามาก นั่นคือ เลนส์โปรเกรสซีฟ หรือ เลนส์ไร้รอยต่อ ค่ะ


บทความนี้ หมออุ๊ย (Dr.Ouise Eye Clinic) ขออาสาพาคุณ เจาะลึกทุกรายละเอียด ของเลนส์ชนิดนี้ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าแว่นสายตาคู่ใหม่ที่เลือก จะช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้คล่องตัวและมองเห็นชัดเจนในทุกกิจกรรมได้อย่างไร้รอยต่อค่ะ

ไม่ต้องพกแว่นหลายอัน

แค่มีอันเดียวก็เอาอยู่!

เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร? (Progressive Lens)

เลนส์โปรเกรสซีฟ คือนวัตกรรมเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไข ปัญหาสายตายาวตามวัย (Presbyopia) สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ความโดดเด่นของเลนส์ชนิดนี้คือการ ไล่ระดับค่าสายตาอย่างต่อเนื่อง ภายในชิ้นเลนส์เดียว ทำให้คุณสามารถ มองเห็นชัดได้ถึง 3 ระยะ คือ ระยะไกล, ระยะกลาง และ ระยะใกล้ โดยไม่ต้องถอดหรือสลับแว่นเลยค่ะ


การผลิตเลนส์นี้ใช้ เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เหมือนการรวมค่าสายตานับร้อยค่า ไว้ในชิ้นเดียว ซึ่งนอกจากจะมอบความคมชัดในทุกกิจกรรมแล้ว ยังช่วย เสริมสร้างบุคลิกภาพ ให้ดูดีและอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะไม่มีรอยต่อของเลนส์ให้เห็นเหมือนแว่นสองชั้นแบบเดิม ๆ ค่ะ

หลักการทำงานของเลนส์โปรเกรสซีฟ

เข้าใจ 3 โซนการมองให้ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ

การใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟให้ได้ผลดีที่สุดคือการ เรียนรู้ที่จะมองผ่านโซนต่างๆ ของเลนส์ ค่ะ เพื่อให้ภาพที่เห็นคมชัด เป็นธรรมชาติ และลดอาการมึนงงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรก ลองฝึกการใช้สายตาดังนี้ค่ะ:

มองระยะไกล (Distance Vision): แค่มองตรงไปข้างหน้าตามปกติ สายตาจะมองผ่าน ส่วนบนสุดของเลนส์ (ใช้สำหรับขับรถ ดูทีวี หรือมองทิวทัศน์)
มองระยะกลาง (Intermediate Vision): เหลือบตาลงเล็กน้อย เพื่อมองตรง โซนกลางของเลนส์ โซนนี้สำคัญมากสำหรับการทำงาน เช่น ใช้คอมพิวเตอร์ ทำอาหาร หรือ สนทนากับคนตรงหน้า ซึ่งเลนส์โปรเกรสซีฟออกแบบมาเพื่อรองรับระยะนี้เป็นพิเศษ
มองระยะใกล้ (Near Vision): เหลือบตาลงไป ส่วนล่างสุดของเลนส์ ซึ่งเป็นโซนกำลังขยายสูงสุด (ใช้สำหรับอ่านหนังสือ เล่นสมาร์ทโฟน หรือทำงานฝีมือใกล้ ๆ)

เลนส์โปรเกรสซีฟมีกี่แบบ? เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

ปัจจุบันแว่นตาโปรเกรสซีฟมีให้เลือกหลายแบบ โดยแบ่งตามเทคโนโลยีการผลิต และการออกแบบที่เฉพาะเจาะจงกับผู้ใช้งาน ซึ่งยิ่งเลนส์ออกแบบเฉพาะบุคคลมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งให้มุมมองกว้าง คมชัด และปรับตัวง่ายขึ้น โดยทั่วไปแล้วว่าแบ่งประเภทของเลนส์โปรเกรสซีฟได้ 3 แบบ คือ

1. เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นมาตรฐาน (Conventional Progressive)

  • หลักการ: ใช้โครงสร้างสำเร็จรูปที่ออกแบบตามมาตรฐานทั่วไป
  • ข้อดี: ราคาย่อมเยา เข้าถึงได้ง่าย
  • ข้อจำกัด: มุมมองแคบ และมี ภาพบิดเบี้ยวด้านข้าง (Distortion) เยอะ ทำให้ผู้เริ่มใช้ใหม่ ๆ อาจต้องใช้เวลาปรับตัวนานกว่า

2. เลนส์โปรเกรสซีฟฟรีฟอร์ม (Freeform Progressive)

  • หลักการ: ผลิตด้วย เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง (Freeform Technology) ซึ่งสามารถขัดเลนส์ได้อย่างแม่นยำแบบจุดต่อจุด
  • ข้อดี: ให้ มุมมองที่กว้างขึ้น ลดภาพบิดเบี้ยวด้านข้าง ทำให้มองภาพได้เป็นธรรมชาติและสบายตามากขึ้น
  • ข้อจำกัด: ราคาสูงกว่ารุ่นมาตรฐาน

3. เลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์เฉพาะบุคคล (Customized / Individual Progressive)

  • หลักการ: ใช้เทคโนโลยี Freeform ร่วมกับ ข้อมูลเฉพาะตัวของผู้ใช้ (Individual Parameters) เช่น ลักษณะกรอบแว่น และพฤติกรรมการทำงาน เพื่อออกแบบเลนส์ให้เหมาะกับคุณเพียงคนเดียว
  • ข้อดี: ให้ ประสิทธิภาพสูงสุด คมชัดในทุกระยะ และแทบไม่มีภาพบิดเบือนด้านข้าง ปรับตัวง่ายและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • ข้อจำกัด: ราคาสูงที่สุด แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับคุณภาพการมองเห็น

ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ?

เลนส์โปรเกรสซีฟตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ถ้าคุณมีลักษณะดังต่อไปนี้ เลนส์นี้คือคำตอบค่ะ:

  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และเริ่มมีอาการ สายตายาวตามวัย (Presbyopia)
  • ต้องทำกิจกรรมที่ ใช้การมองเห็นหลากหลายระยะ เช่น ขับรถ สลับมาทำงานคอมพิวเตอร์ และอ่านเอกสาร
  • ต้องการ ความสะดวกสบายสูงสุด และไม่อยากพกแว่นหลายอัน
  • ต้องการ เสริมบุคลิกภาพ ให้ดูอ่อนเยาว์ เพราะไม่มีรอยต่อกวนใจ
  • ต้องการ ถนอมดวงตา และชะลอการเพิ่มขึ้นของค่าสายตา

ข้อดี - ข้อจำกัดของเลนส์โปรเกรสซีฟ

ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ!

ข้อดีของการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ

  1. สะดวกสบาย จบในแว่นเดียว: มองเห็นได้ครบทุกระยะ ทั้งใกล้ กลาง และไกลในแว่นเดียว ไม่ยุ่งยาก
  2. คมชัดต่อเนื่อง เป็นธรรมชาติ: การไล่ระดับกำลังเลนส์ทำได้อย่าง นุ่มนวลและลื่นไหล ทำให้เปลี่ยนระยะมองได้อย่างสบายตา ไม่มีอาการภาพกระโดด
  3. สวยงาม มั่นใจในบุคลิกภาพ: ตัวเลนส์ ไม่มีรอยแบ่ง เหมือนแว่นสองชั้น ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูเรียบหรูและเป็นธรรมชาติ

ข้อจำกัดที่ควรทราบ (เพื่อเตรียมตัวปรับใช้)

  1. ต้องใช้เวลาปรับตัว (Adaptation Period): ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจต้องใช้เวลาให้สมองและดวงตาคุ้นเคยกับโซนมองใหม่ๆ
  2. มีภาพบิดเบือนด้านข้าง (Peripheral Distortion): โดยเฉพาะบริเวณขอบเลนส์ จึงต้องฝึก หันศีรษะ มองแทนการชำเลืองด้วยสายตา
  3. มุมมองระยะใกล้/กลาง แคบกว่าเลนส์เฉพาะทาง: หากคุณต้องใช้คอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือ ตลอดทั้งวัน อาจต้องพิจารณาเลนส์เฉพาะทางร่วมด้วย
  4. ราคาสูงกว่าเลนส์ทั่วไป: เป็นการลงทุนที่สูงกว่า เนื่องจากเป็นเลนส์ที่ใช้เทคโนโลยีและการออกแบบที่ซับซ้อน

เลนส์โปรเกรสซีฟ ยี่ห้อไหนดี?

แตกต่างกันอย่างไร

  • แบรนด์เลนส์จากฝรั่งเศส ถูกออกแบบมาเพื่อมอบมุมมองที่กว้างสุดถึง 90% ช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้างได้สูง และผสานระหว่างความนุ่มนวลและภาพชัดเจนในทุกระยะการมอง
  • จุดเด่น: มองเห็นภาพในมุมกว้างมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้งานทุกรูปแบบ
  • ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ: 5,000.-
  • เป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นเรื่องความสบายตา มาพร้อมการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการออกแบบเลนส์ (Soft Design) ชาวยเกลี่ยค่าสายตาให้รู้สึกนุ่มสบายที่สุด
  • จุดเด่น: ใส่แล้วรู้สึกสบายตามาก ปรับตัวง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป
  • ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ : 6,000.-
  • อีกหนึ่งแบรนด์ญี่ปุ่น ที่เน้นให้ผู้ใช้งาน รู้สึกปรับตัวง่ายที่สุด โดยชูซอฟต์แวร์ที่ให้เลือกตามเลนส์ที่เคยใช้มาก่อน ให้ภาพที่เห็นคมชัด ปกป้องดวงตาจารังสีต่าง ๆ ให้มุมมองภาพกว้าง และออกแบบเลนส์ให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
  • จุดเด่น: เหมาะสำหรับผู้เริ่มใช้เลนส์โปรเกรสซีฟครั้งแรก เน้นการใช้งานที่ปรับตัวง่าย
  • ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ : 6,000.-
  • แบรนด์คุณภาพสูงจากเยอรมนี ที่ใช้เทคโนโลยี Wavefront (ซึ่งใช้ในเครื่อง LASIK) นำมาขัดเลนส์ และยังเป็นเลนส์เฉพาะบุคคลที่ขัดใหม่สำหรับแต่ละคู่ เพื่อให้ได้เลนส์คุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพสายตา
  • จุดเด่น: มีความคมชัดมาก เหมาะกับผู้ที่เน้นงานคุณภาพสูง มองภาพใกล้-กลาง-ไกลได้ครบถ้วนพร้อมรายละเอียดเลนส์สูง
  • ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ: 6,990.-
  • แบรนด์นวัตกรรมที่ให้แบบไม่มีข้อจำกัด ในการเลือกกรอบแว่น ไม่ว่าจะเลือกกรอบทรงไหนก็สามารถใช้เลนส์โปรเกรสซีฟของ Shamir ได้ โดยเฉพาะกรอบทรงสปอร์ตสำหรับเล่นกีฬา
  • จุดเด่น: อิสระในการเลือกกรอบ เหมาะกับผู้ที่ชอบดีไซน์หรือกรอบแว่นพิเศษ
  • ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ: 3,900.-
  • เลนส์สัญชาติเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเลนส์แว่นตาและอุปกรณ์ออพติคัลระดับโลก ตัวเลนส์จะมีความใสสูงมาก เมื่อสวมแล้วให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่แว่น และมองภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติในทุกระยะ
  • จุดเด่น: ให้ภาพใส เป็นธรรมชาติ ตัวเลนส์มีความเรียบหรู เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความใส และการมองแบบธรรมชาติโดยเฉพาะ
  • ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ: 9,000.-

Dr.Ouise Eye Clinic

คลินิกจักษุครบวงจร กรุงเทพ-รังสิต / ปทุมธานี / รามอินทรา (แฟชั่นไอส์แลนด์) บริการ ตรวจสุขภาพตา,ตรวจวัดสายตา, แก้ไข สายตาสั้น, สายตายาว, ตัดแว่น, ตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ, แว่นชะลอสายตาสั้นในเด็ก นำโดย (หมออุ๊ย) จักษุแพทย์ เฉพาะทาง และ ทีมนักทัศนมาตร

ทำไม หมออุ๊ย ถึงแนะนำให้

ลองเลนส์โปรเกรสซีฟ ก่อนตัดสินใจ?

การทดลองสวมเลนส์ก่อนซื้อจริง ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ค่ะ การลองจะช่วยให้คุณมั่นใจ 100% ว่าเลนส์ที่เลือกเหมาะกับดวงตาและกิจกรรมของคุณจริง ๆ ค่ะ

การลองเลนส์ล่วงหน้าจะช่วยให้ :

  • ได้สัมผัสมุมมองจริง: ลองมองไกล กลาง ใกล้ ในสภาพแวดล้อมจริง ๆ ก่อนตัดสินใจ
  • ทดสอบการปรับตัว: ดูว่าคุณสามารถคุ้นเคยกับโซนการมองต่าง ๆ ของเลนส์ได้ง่ายแค่ไหน
  • รู้สึกสบายตา: ทดสอบความสบายตาในกิจกรรมประจำวัน
  • ยืนยันความเหมาะสมของกรอบ: ตรวจสอบว่าเลนส์เข้ากันได้ดีกับรูปหน้าและกรอบแว่นที่เลือกไว้หรือไม่

ที่ Dr.Ouise Eye Clinic เราให้ความสำคัญกับการทดลองเลนส์จริงก่อนตัดเสมอ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเลนส์ที่ได้รับจะตอบโจทย์ทั้ง "ความชัด" และ "ความสบายตา" ค่ะ

ทำไมบางคนซื้อเลนส์โปรเกรสซีฟแล้วใส่ไม่ได้? (พร้อมวิธีป้องกัน)

หมออุ๊ย เข้าใจดีว่าหลายคนอาจเคยเจอปัญหา "ตัดเลนส์โปรเกรสซีฟแล้วใส่ไม่ได้" "ตัดแล้วปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้" จนใส่เลนส์โปรเกรสซีฟไม่ได้ ซึ่งปัญหานี้ส่วนใหญ่มักไม่ได้เกิดจากตัวเลนส์เสียทีเดียว แต่เกิดจากขั้นตอนที่ไม่แม่นยำค่ะ

  • ค่าพารามิเตอร์ไม่แม่นยำ: การวัดค่าสำคัญ ๆ เช่น ระยะรูม่านตา (PD) หรือ ความสูงของศูนย์กลางเลนส์ (Fitting Height) ต้อง แม่นยำมาก หากจุดเซนเตอร์วางไม่ตรง จะทำให้โซนการมองผิดตำแหน่ง ส่งผลให้มองไม่ชัดหรือเวียนหัวได้
  • การจ่ายค่าสายตาที่ไม่เหมาะสม: การกำหนดค่าสายตาถือเป็น 'ศิลปะอย่างหนึ่ง' ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการเลือก โครงสร้างเลนส์ (Corridor) ที่เหมาะสมกับกิจกรรมเฉพาะบุคคล
  • กรอบแว่นที่ไม่รองรับเลนส์: กรอบที่เล็ก, ใหญ่, หรือโค้งมากเกินไป อาจไม่สามารถจัดวางโซนมองได้ครบถ้วน หรือไม่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับใบหน้าได้อย่างถูกต้อง
  • ขาดการฝึกใช้ที่ถูกต้อง: เลนส์โปรเกรสซีฟต้องมีการ "ฝึกฝน" การใช้ การเหลือบตา อย่างถูกวิธี ซึ่งหากขาดคำแนะนำที่ชัดเจน ก็อาจทำให้ผู้ใช้มองภาพผิดวิธีและรู้สึกไม่สบายตาได้

หมออุ๊ยแนะนำ:

หากคุณเคยเจอปัญหาเหล่านี้ อย่าเพิ่งท้อใจ สามารถติดต่อมาที่คลินิก เพื่อให้ทีมจักษุแพทย์ของเราช่วย ให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ค่ะ

เทคนิคเลือกกรอบแว่น " ให้เหมาะ " กับเลนส์โปรเกรสซีฟ

กรอบแว่นที่ดีมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเลนส์โปรเกรสซีฟได้มากค่ะ:

  • กรอบควรมีความสูงเพียงพอ เพื่อรองรับพื้นที่การมองทั้งหมด ทั้งโซนมองไกล กลาง และใกล้
  • ความโค้งของกรอบไม่มากเกินไป เพื่อให้เลนส์จัดสมดุลได้ดี
  • เลือกกรอบที่มั่นคงและปรับได้ละเอียด โดยเฉพาะบริเวณขาแว่นและดั้งจมูก

หากต้องการกรอบทรงสปอร์ตหรือใช้สำหรับเล่นกีฬา ควรเลือกเลนส์แว่นตาสำหรับเล่นกีฬา เช่น Shamir หรือ Rodenstock ที่ออกแบบให้เข้ากับกรอบโค้งทุกทรง เพื่อให้การเล่นกีฬาราบรื่น และยังสามารถใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับปรับตัวให้ชินกับเลนส์โปรเกรสซีฟ (ภายใน 12 สัปดาห์)

การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ลองทำตามคำแนะนำง่าย ๆ เหล่านี้ดูนะคะ:

  • เริ่มต้นที่กิจกรรมที่คุ้นเคย: ใช้แว่นใหม่กับกิจกรรมที่ไม่ซับซ้อน เช่น อ่านหนังสือหรือดูทีวีในบ้านก่อน
  • ฝึก เหลือบตา แทนการขยับศีรษะ: นี่คือหัวใจสำคัญ! ฝึกเหลือบตาลงเพื่อมองผ่านโซนกลางและล่างของเลนส์ แทน การก้มหรือเงยศีรษะมากเกินไป
  • หันศีรษะเพื่อมองด้านข้าง: เมื่อต้องการมองด้านข้าง ให้ หันศีรษะทั้งใบหน้า ไปยังวัตถุนั้น แทนการชำเลืองด้วยสายตาเพียงอย่างเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงภาพบิดเบือนด้านข้าง
  • ให้เวลาตัวเอง: ให้เวลาสมองและดวงตาปรับตัวอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ แล้วคุณจะรู้สึกเป็นธรรมชาติและใช้งานได้คล่องตัวขึ้นเรื่อย ๆ

คู่มือการเลือกร้านตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ (เลือกอย่างไรให้ได้แว่นที่ใช่)

เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวัดและประกอบสูง ดังนั้นการเลือกร้านจึงสำคัญไม่แพ้การเลือกเลนส์ค่ะ:

  1. มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: เลือกร้านที่มีจักษุแพทย์ หรือ นักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญ คอยดูแลการตรวจวัดสายตาและการให้คำแนะนำ
  2. ตรวจวัดละเอียดครอบคลุม: ต้องมีการตรวจวัดครบทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ พร้อมวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้สายตาในชีวิตจริง (ไลฟ์สไตล์) ของคุณ
  3. เครื่องมือวัดทันสมัย: มีเครื่องมือวัดและระบบการวางเลนส์ด้วย ระบบดิจิทัล ที่ทันสมัย เพื่อให้ค่าพารามิเตอร์มีความแม่นยำสูงสุด
  4. มีบริการทดลองเลนส์: ควรมีบริการทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟก่อนตัดจริง เพื่อให้คุณมั่นใจ 100% ก่อนการตัดสินใจลงทุน
  5. การรับประกันคุณภาพ: มีการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขายที่พร้อมช่วย แก้ไขปัญหา ในกรณีที่ใส่แล้วมีอาการไม่สบายตา

วิธีเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนตรวจวัดสายตาเพื่อตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ

นอกจากการเลือกร้านแว่นตา ที่มีความสำคัญแล้ว การเตรียมตัวเองให้พร้อม ก่อนตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำให้กับการวัดสายตา

1. สำรวจพฤติกรรมการใช้สายตา

ก่อนตรวจวัดสายตา ควรสังเกตพฤติกรรมของตนเอง เช่น ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือวันละกี่ชั่วโมง ต้องอ่านเอกสารใกล้บ่อยไหม หรือมีกิจกรรมกลางแจ้งและขับรถประจำหรือไม่ เพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญออกแบบเลนส์ที่เหมาะกับการใช้งานจริง


2. พักสายตาก่อนตรวจวัด

ควรพักสายตาอย่างน้อย 1530 นาที รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการใช้มือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือ เพื่อให้กล้ามเนื้อตาคลายตัว และได้ผลการวัดที่แม่นยำที่สุด


3. ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนตรวจวัดสายตา

หากใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ แนะนำว่าควรถอดคอนแทคเลนส์ล่วงหน้า เพื่อให้กระจกตาคืนรูปสู่สภาวะปกติ หากเป็นคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม ควรถอดก่อน 1 วัน หรืออย่างน้อย 30 นาที และชนิดแข็งหรือกึ่งแข็งควรถอดก่อน 1 สัปดาห์ก่อนตรวจ เพื่อการวัดค่าสายตาที่ถูกต้อง


4. นำแว่นคู่เดิมมาด้วย

หากมีแว่นที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว แนะนำว่าควรนำมาเพื่อเปรียบเทียบค่าสายตาเก่ากับปัจจุบัน และช่วยวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาการมองเห็น เช่น อาการมองไม่ชัดหรือเวียนหัวที่เคยเกิดขึ้น ว่าเกิดจากค่าสายตาหรือโครงสร้างเลนส์เดิมหรือไม่


5. เลือกกรอบแว่นให้พอดีกับใบหน้า

เพราะกรอบแว่นมีผลต่อประสิทธิภาพของเลนส์โปรเกรสซีฟโดยตรง กรอบที่ใหญ่หรือโค้งเกินไปอาจทำให้เกิดภาพบิดเบือนด้านข้าง (Distortion) ควรเลือกกรอบที่ขนาดพอดี ปรับดัดได้ง่าย และวางตำแหน่งเลนส์ตรงแนวสายตา


6. เตรียมเวลาให้เพียงพอในการตรวจ

การวัดสายตาเพื่อทำเลนส์โปรเกรสซีฟมีความละเอียดกว่าปกติ เพราะต้องตรวจทั้งระยะไกล กลาง ใกล้ รวมถึงวัดค่าระยะรูม่านตา (PD) และความสูงศูนย์กลางเลนส์ (Fitting Height) ดังนั้นควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลประเมินที่ครบถ้วน


7. สอบถามทุกข้อสงสัย

หากมีคำถามเกี่ยวกับเลนส์หรือวิธีใช้งาน ควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อให้เข้าใจวิธีใช้ที่ถูกต้องและมั่นใจเมื่อเริ่มใส่จริง

ทำไมหลายคนถึงไว้วางใจ

เลือกตัดเลนส์โปรเกรสซีฟที่ คลินิกตาหมออุ๊ย?

หากคุณมีปัญหาทางด้านสายตา ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (คลินิกตาหมออุ๊ย) ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก เราพร้อมดูแลด้วยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักทัศนมาตรมืออาชีพ และทีมงานคุณภาพ ที่ให้ความสำคัญในการตัดแว่น ทั้งในเรื่องความแม่นยำ คุณภาพ และบริการหลังการขาย เพื่อให้คุณมองเห็นได้ชัดเจนและสบายตาที่สุดในทุกวัน

นำทีมโดย คุณหมออุ๊ย จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  • คุณหมออุ๊ย เป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและการแก้ไขค่าสายตา จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเลนส์โปรเกรสซีฟและเลนส์เฉพาะบุคคลโดยเฉพาะ

การตรวจวัดสายตาที่ละเอียดและครบวงจร

  • ตรวจโดยนักทัศนมาตรมืออาชีพ: เริ่มจากการวัดสุขภาพตาและค่ากำลังเลนส์ที่แม่นยำ
  • วัดตำแหน่งดวงตาด้วยระบบดิจิทัล: ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในการวัดตำแหน่งเซนเตอร์ของดวงตา เพื่อให้การวางเลนส์ตรงจุดพอดี
  • ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา: ตรวจสอบการทำงานร่วมกันของดวงตาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันปัญหา ปวดตา ภาพซ้อน หรือ มึนศีรษะ

คุณภาพและการบริการหลังการขาย

  • ฝนเลนส์ด้วยเครื่องมาตรฐานสากล: เลนส์ทุกคู่ผ่านกระบวนการฝนด้วยเครื่องมือระดับสากล เพื่อให้ได้เลนส์ที่สวยงามและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ปรึกษาจักษุแพทย์ได้โดยตรง: คุณสามารถ ปรึกษาคุณหมออุ๊ยโดยตรง เพื่อสอบถามปัญหาสุขภาพตา หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้อย่างอุ่นใจ
  • การันตีคุณภาพ: มั่นใจในคุณภาพของเลนส์ทุกคู่ พร้อมการรับประกันการใช้งานจริง และบริการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ

เลนส์โปรเกรสซีฟต่างจากเลนส์สองชั้นยังไง?
เลนส์โปรเกรสซีฟ จะไล่ระดับกำลังสายตาอย่างต่อเนื่องจากบนลงล่าง ทำให้มองเห็นได้ทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีเส้นแบ่งกลางเลนส์เหมือนเลนส์สองชั้น จึงดูสวยงามกว่า และช่วยให้การปรับสายตาเป็นไปอย่างนุ่มนวล
ใช้เวลานานแค่ไหน กว่าจะปรับตัวกับเลนส์โปรเกรสซีฟได้?
ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการปรับตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและพฤติกรรมของแต่ละคน แต่หากเลือกเลนส์ที่ออกแบบเฉพาะบุคคลและวัดค่าสายตาโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ปรับตัวได้เร็วขึ้น และมองเห็นได้สบายตากว่า
ทำไมเลนส์โปรเกรสซีฟถึงมีราคาสูงกว่าเลนส์ทั่วไป?
เพราะราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการออกแบบเลนส์ที่แม่นยำกว่า การเคลือบผิวเลนส์ (Coating) ระดับความละเอียดของการวัดสายตาและการประกอบแว่น ฯลฯ และยิ่งเป็นเลนส์ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีระดับสูง ราคาก็จะสูงขึ้น แต่ก็มักให้ความสบายตา และความคมชัดที่ดีกว่าเช่นกัน เหมาะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
เลนส์โปรเกรสซีฟ ช่วยลดอาการปวดตาหรือมึนศีรษะได้ไหม?
ได้ค่ะ หากอาการดังกล่าวเกิดจากการใช้แว่นที่ไม่ตรงค่าสายตา หรือมีการโฟกัสใกล้ไกลบ่อย ๆ เลนส์โปรเกรสซีฟที่ออกแบบและวัดค่าอย่างละเอียด สามารถช่วยลดอาการล้าตา ปวดตา และเวียนศีรษะได้มาก แต่ถ้าใส่แล้วมีอาการต่อเนื่อง แนะนำว่าควรกลับไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กอีกครั้ง เพื่อปรับเลนส์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานมากขึ้น
ดูแลเลนส์โปรเกรสซีฟอย่างไรให้ใช้งานได้นาน?
ควรทำความสะอาดเลนส์ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ และใช้น้ำยาเช็ดเลนส์ที่เหมาะสม รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการใช้กระดาษทิชชู่หรือเสื้อเช็ด เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ และควรเก็บแว่นในกล่องทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน หลีกเลี่ยงการวางในที่อุณหภูมิสูง เช่น รถยนต์ที่จอดตากแดด เพราะอาจทำให้เคลือบผิวเลนส์เสื่อมเร็วขึ้น

การลงทุนกับเลนส์โปรเกรสซีฟ คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องน่ารู้ของเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่หมอรวบรวมมาบอกต่อในปี 2026 นี้ แน่นอนว่าการตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟสักคู่ให้ได้คุณภาพ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงตัวเลนส์หรือกรอบเท่านั้น แต่ควรเริ่มต้นตั้งแต่การตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ การเลือกเลนส์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน และการประกอบที่แม่นยำ เพื่อให้ดวงตาได้รับการมองเห็นที่คมชัด สบายตา และช่วยตอบโจทย์ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ได้อย่างสะดวกสบาย


ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (คลินิกตาหมออุ๊ย) เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์เฉพาะทาง การวัดค่าสายตาโดยนักทัศนมาตรมืออาชีพ ไปจนถึงการประกอบเลนส์ด้วยเครื่องมือมาตรฐานสากล เพื่อให้ทุกคู่ของแว่นเป็นเลนส์คุณภาพเฉพาะบุคคล ที่เหมาะสมกับดวงตาของคุณที่สุด เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะมีปัญหามองไกลไม่ชัด มองใกล้ลำบาก หรือเริ่มมีอาการล้าตาจากการใช้หน้าจอ เราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียดค่ะ

อย่าปล่อยให้ 'สายตายาวตามวัย' มาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต! คุณหมออุ๊ย พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบแผนการดูแลเฉพาะบุคคล เพื่อการมองเห็นที่คมชัดและสบายตาของคุณค่ะ

ผู้เขียนบทความโดย

แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย (หมออุ๊ย)

จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

แพทย์หญิงวชิรา สนธิไชย (หมออุ๊ย)

  • จักษุแพทย์เฉพาะทาง อนุสาขากระจกตาและแก้ไขค่าสายตา (Cornea and Refractive surgery)
  • ชำนาญด้านการรักษาโรคตา เช่น โรคตาแห้ง โรคกระจกตาโก่งย้วย และการแก้ไขปัญหาค่าสายตาผิดปกติ
    ด้วยการจ่ายเลนส์แว่นสายตา เลเซอร์แก้ไขค่าสายตา เช่น เลสิก ผ่าตัดใส่เลนส์เสริม
    จากที่คุณหมอมีประสบการณ์กว่า 10 ปี กับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านค่าสายตาผิดปกติรวมถึงโรคตา
  • ประกอบกับทางบ้านคุณหมอเองมีกิจการด้านแว่นตา จึงทำให้หมอเองนำความชำนาญทั้ง 2 ด้านมาผสานกัน
    ก่อตั้งเป็น “ร้านแว่นตา Dr. Ouise Eye Specialist" เน้นการจ่ายเลนส์แว่นตาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพตาเฉพาะบุคคล เพื่อให้การมองเห็นที่ชัดเจนและสบายตา โดยมีเป้าหมายขอเป็นด่านแรกในการดูแลแบบองค์รวมสุขภาพตาเบื้องต้นให้กับชาวไทย เข้าถึงการตรวจตา โดยไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล"

    ประวัติการศึกษา

  • แพทยศาสตร์บัณฑิต ศิริราชพยาบาล, มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วุฒิบัตรสาขาจักษุวิทยา, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • วุฒิบัตรอนุสาขากระจกตา และผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล

    ปัจจุบัน

  • อาจารย์จักษุแพทย์ หน่วยกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • ผู้ก่อตั้ง Dr.Ouise Eye Clinic และ Dr.Ouise Eye Specialist
  • ทีมบริหาร ร้านแว่นตา the NEXT

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเพื่อตรวจสุขภาพตา ได้ที่

โทร : 090-224-5168

Facebook : Dr.Ouise Eye Clinic

สาขาของเรา

Dr.Ouise Eye Clinic

DR.OUISE EYE CLINIC

📍 ที่ตั้ง: ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์
อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130

🕒 เวลาเปิด–ปิด: 10.00–18.00 น.

📞 โทร: 090-224-5168

Dr.Ouise Eye Specialist Fashion Island

DR.OUISE EYE SPECIALIST

📍 ที่ตั้ง: ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230

🕒 เวลาเปิด–ปิด: 10.00–22.00 น.

📞 โทร: 095-386-6361

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy