เมื่อคนเรามีรูปหน้าไม่เหมือนกัน ความยาวลูกตา (กระบอกตา) แต่ละคนจึงไม่เท่ากัน เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนลายนิ้วมือที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้น กรอบแว่นตา และ เลนส์แว่นตา จึงถูกออกแบบมาให้มีหลายรูปทรง และเมื่อนำกรอบแบบเดียวกันมาใส่บนหน้าแต่ละคน ผลลัพธ์ทั้งในเรื่องความคมชัด มุมมอง ไลฟ์สไตล์ และความสบายตา มักแตกต่างกันเสมอ ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของ เลนส์เฉพาะบุคคล ที่เรากำลังจะพูดถึงค่ะ
การเลือกเสื้อผ้า ต้องมีการวัดทุกส่วนอย่างละเอียด เพื่อให้ได้เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับตัวเอง หากเราใส่เสื้อผ้าสำเร็จรูป แน่นอนว่าเราใส่ได้ แต่ก็จะมีความไม่พอดีตัว หรือไม่สบายตัวอยู่บ้าง ต่างกับเสื้อผ้าที่เราสั่งตัดเองโดยเฉพาะ ที่ให้ความพอดีและความชอบที่มากกว่า ดังนั้นการเลือกเลนส์แว่นตา มาใช้งานสักอัน ความเหมาะสมย่อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคุณภาพเลนส์แว่นสายตาที่ดี ส่งผลให้การใช้งานสะดวกสบายขึ้นเสมอ
ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาเลนส์ให้เข้ากับแต่ละบุคคล หรือ เลนส์เฉพาะบุคคล (Personalization หรือ Frame fit หรือ Individual หรือ F360) เพื่อช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น สบายตา มีความคมชัด ได้มุมมองกว้าง นุ่มนวล และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถือได้ว่าเป็นเลนส์ที่ผลิตมาเพื่อการใช้งานเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง ที่สำคัญยังสามารถทำได้ทั้งเลนส์ชั้นเดียว และเลนส์โปรเกรสซีฟอีกด้วย
ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Biometric ซึ่งเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคลก่อน เช่น การที่แสงผ่านรูม่านตาไปยังตา หรือความยาวของกระบอกตา ที่มีค่าเฉลี่ยมาตรฐานอยู่ที่ 24 มม. แต่บางคนอาจมีขนาดที่ไม่ตรงกับมาตรฐาน เช่น ความยาวกระบอกตาอาจสั้นกว่า 20 มม. หรือยาวกว่า 30 มม. ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาสายตาสั้นหรือสายตายาว หลังจากนั้นจะมีการนำข้อมูล Biometric ของแต่ละบุคคลมาประกอบผลในการคำนวณเพื่อผลิตเลนส์ รวมไปถึงการใช้เครื่องมือพิเศษในการสแกนค่าต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลในรูปแบบ 3 มิติ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้สวมใส่ได้มากที่สุด
สำหรับข้อมูลที่ต้องนำมาใช้ เพื่อประกอบผลผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล เช่น
เพื่อนำมาคำนวณโครงสร้างเลนส์เฉพาะจุดที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความละเอียดและความแม่นยำสูงสุด
รวมไปถึงความเทของหน้าแว่นและความห่างของหน้าแว่น เมื่อสวมเข้ากับใบหน้า
หรือ ERC เพื่อออกแบบเลนส์ให้แสงตกกระทบและส่งไปยังจอรับภาพได้ไวขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การจับโฟกัสรวดเร็ว มองเห็นภาพระยะใกล้และไกลได้ภายในเสี้ยววินาที
ตาข้างถนัดเปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนมือข้างที่ถนัดเลยค่ะ สิ่งนี้ช่วยจับภาพในระยะกระชั้นชิดได้ไว เช่น การขับรถแล้วมีเด็กวิ่งตัดหน้า จะช่วยให้คุณหยุดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้มากกว่าเดิม
การมองในลักษณะดังกล่าว จะทำให้ตาหันเบนเข้าหากัน และบางคนอาจมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ซึ่งตรงนี้ต้องนำมาคำนวณค่าจริง และระยะในการกวาดตาลงเพื่ออ่านหนังสือ
หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า NVB จะรวมไปถึงท่าทางในการถืออุปกรณ์ที่ใช้ในขณะนั้น ๆ และวิธีการใช้งาน เช่น วิธีการถือแท็บแล็ต องศาที่ใช้ถือเป็นประจำ วิธีการเหลือบมอง ระยะห่างตาขณะถืออุปกรณ์ เป็นต้น
นอกจากการเลือกแบรนด์เลนส์แว่นตา ที่มี Character หรือ จุดเด่นที่ไม่เหมือนกันแล้ว จำเป็นต้องอาศัยการหาค่าต่าง ๆ มาคำนวณ โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น visio office
เพราะหากไม่ได้มีการคำนวณกรอบแว่นและเลนส์โปรเกรสซีฟ คุณภาพมุมมองที่ควรได้รับ 100% อาจเหลือเพียง 60% ดังนั้นการทำเลนส์เฉพาะบุคคล จึงทำให้คุณได้รับค่าเลนส์ที่ใช้งานเต็มศักยภาพ ทั้งมุมมอง ลานสายตา ลดภาพบิดเบือนที่เกิดด้านข้าง ความสบายตา เหมือนกับการได้สวมใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัว
เลนส์เฉพาะบุคคล เป็นสิ่งที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละคนอย่างแท้จริง ช่วยให้มุมมองการมองเห็นสบายมากขึ้น มีความคล่องตัว ไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงาน และยังช่วยลดการปวดศีรษะ จากการเลือกเลนส์แว่นตาที่ไม่เหมาะสมได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นไอเทมที่ช่วยเปลี่ยนโลกให้กับการมองอย่างแท้จริง
ที่ Dr.Ouise Eye Clinic พร้อมให้บริการ เลนส์เฉพาะบุคคล ที่ช่วยให้การมองเห็นในชีวิตประจำวันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการคำนวณที่ครบถ้วนของจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การประกอบแว่นตามีประสิทธิภาพ แม่นยำ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล
บทความโดย หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทาง ด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ