แชร์

ตัดแว่นใหม่ ปรับสายตากี่วัน? รู้ก่อนใส่ ลดอาการเวียนหัวอย่างถูกวิธี

อัพเดทล่าสุด: 9 มิ.ย. 2025
159 ผู้เข้าชม

ตัดแว่นใหม่ ปรับสายตากี่วัน? รู้ก่อนใส่ ลดอาการเวียนหัวอย่างถูกวิธี

 

หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาเมื่อใส่แว่นสายตาตัวใหม่แล้วรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดตา หรือตัดแว่นใหม่ มองเห็นไม่ชัดเท่ากับแว่นสายตาตัวเก่า วันนี้หมอจะมาอธิบายให้ฟัง ว่าอาการเหล่านี้เกิดจากอะไร มีสาเหตุมาจากไหน พร้อมแชร์วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว และช่วยให้ดวงตาปรับตัวกับแว่นใหม่ได้เร็วขึ้น

 

 

 

  

ปรับสายตาแว่นใหม่ ใช้เวลากี่วัน? อาการไหนพบบ่อยที่สุด

 

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า ระยะเวลาในการปรับสายตาให้เข้ากับแว่นใหม่ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจเวลาเพียงสั้น ๆ ก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้แล้ว แต่สำหรับบางใช้เวลาในการปรับสายตาอยู่ที่ประมาณ 3 5 วัน หรือบางคนอาจใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลยก็มี ซึ่งนอกจากอาการเวียนหัวแล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ ที่ได้พบได้บ่อยหลังตัดแว่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น

 

  1. เวลาเดินแล้วรู้สึกเหมือนพื้นลอย พื้นเอียง หรือพื้นมีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน
  2. รู้สึกกะระยะสิ่งของรอบตัวได้ยากขึ้น เช่น หยิบของไม่ตรงเป้า หรือเดินชนโต๊ะ
  3. เห็นภาพไม่ชัดเป็นบางเวลา ทั้งที่ในตอนแรกเหมือนจะเห็นชัดแล้ว
  4. สิ่งของรอบตัวมีรูปร่างที่ผิดไปจากเดิม เช่น รู้สึกว่าประตูโน้มเข้าหาตัว หรือโน้มออกจากตัวของผู้ส่วมใส่ เห็นภาพเบี้ยว บางครั้งอาจมองเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู หรือรู้สึกว่าภาพโค้งนูน โค้งเว้า
  5. รู้สึกมึนงง  คล้ายจะเวียนหัว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สมองต้องประมวลผลภาพใหม่
  6. ปวดตา ตาล้า รู้สึกไม่สบายตา ปวดกระบอกตา เพราะกล้ามเนื้อตาต้องใช้พลังงานมากขึ้น ในการปรับตัวเข้ากับเลนส์ใหม่
  7. ปวดศีรษะ ซึ่งมักเกิดจากการที่สมอง พยายามประมวลผลกับภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิม หรืออาจเกิดจากการที่กล้ามเนื้อตาทำงานหนักเกินไป

 

   

ตัดแว่นใหม่แล้วเวียนหัว สาเหตุเกิดจากอะไร?

  

1. การปรับตัวของสมอง

เมื่อเริ่มใส่แว่นสายตาตัวใหม่ สมองต้องปรับตัวเพื่อรับรู้ภาพที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น เมื่อใส่แว่นสายตาสั้น ภาพที่ส่งมายังสมองก็จะเล็กลงจากเดิม เนื่องจากเลนส์เว้ามีผลทำให้ภาพมีขนาดเล็กลงกว่าความเป็นจริง ทำให้สมองต้องประมวลผลภาพใหม่ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงรู้สึกเวียนศีรษะ เห็นพื้นลอย หรือเห็นภาพมัวในช่วงแรกที่เปลี่ยนแว่นใหม่ ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองเมื่อสมองสามารถปรับตัวได้


2. ค่าสายตา

หากค่าสายตาที่วัดใหม่ เพิ่มขึ้นจากแว่นเดิมเยอะ เช่น เดิมสายตาสั้นอยู่ที่ -1.50 D แต่ค่าสายตาใหม่เพิ่มเป็น -2.50 D หรือ -3.00 D (เพิ่มขึ้นมากกว่า 1.00 D) มักทำให้สมองต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อประมวลผลภาพใหม่ จึงทำให้เกิดอาการปวดตา ตามัวและเวียนศีรษะตามมาได้ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่เกิดจากค่าสายตาอื่น ๆ อีก ดังนี้

  • การใส่ค่าสายตาเอียงครั้งแรก หรือค่าสายตาเอียงเพิ่มขึ้นจากแว่นเดิม มักทำให้ผู้สวมใส่ต้องใช้เวลาปรับตัวนานขึ้น เนื่องจากค่าสายตาเอียงส่งผลต่อการรับรู้ภาพ ทำให้ภาพบางอย่างดูบิด เบี้ยว หรือเอียงไปจากเดิม เช่น เส้นตรงอาจดูเอียง ประตูดูเบี้ยว หรือพื้นดูโค้ง ทำให้เกิดอาการเวียนหัวและรู้สึกไม่สบายตาได้ง่ายกว่าปกติ
  • ค่าสายตาสองข้างต่างกันเยอะ เช่น ข้างขวาสั้น -1.00 DS ข้างซ้ายยาว +0.50 DS เมื่อใส่แว่นแล้วมองสองตาพร้อมกัน สมองจะรับรู้ภาพจากตาแต่ละข้างที่มีขนาดแตกต่างกัน จึงอาจทำให้เกิดซ้อน มึนงงและเวียนศีรษะได้
  • จ่ายค่าสายตามากเกินค่าสายตาจริง เช่น จ่ายค่าสายตาสั้นเยอะ เอียงเยอะ หรือจ่ายค่าสายตายาวตามวัย (Addition) เยอะกว่าค่าสายตาจริง มักทำให้มองเห็นภาพมัว เห็นพื้นลอย ปวดตา และเวียนศีรษะได้เช่นกัน
  • วัดค่าสายตาผิด เช่น มีปัญหาสายตายาว แต่ผลวัดออกมาเป็นสายตาสั้น หากใส่แว่นที่ไม่ตรงกับค่าสายตาจริง จะทำให้มองเห็นไม่ชัด เกิดอาการเวียนหัว ปวดตา และใช้แว่นไปนาน ๆ อาจทำให้สายตาเสียมากขึ้น

 

 

 

 

3. จุดประกอบผิด

  • ตำแหน่งจุดกึ่งกลางรูม่านตา (PD) ของคนไข้ไม่ตรงกับจุดกึ่งกลางเลนส์ เพราะโดยปกติจุดกึ่งกลางของเลนส์ ควรอยู่ตรงกับจุดกึ่งกลางของรูม่านตา หากอยู่ไม่ตรงกันเวลาที่แสงผ่านเข้าเลนส์จะเกิดการหักเหที่ผิดปกติ ทำให้มองเห็นภาพมัว เห็นพื้นลอย ปวดตา และเวียนศีรษะ
  • ความสูงจากจุดกึ่งกลางรูม่านตา ถึงขอบล่างของเลนส์ (Fitting High) สูงหรือต่ำเกินไป ในเลนส์ชั้นเดียวอาจไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับเลนส์สองชั้น เลนส์เฉพาะทาง หรือเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีผลต่อการโฟกัสภาพ
  • ความโค้งของกรอบแว่น (Face Form Angle) และมุมเทหน้าแว่น (Pantoscopic Tilt) ไม่เหมาะสม โดยทั่วไปค่ามาตรฐานของความโค้งกรอบแว่นจะอยู่ที่ 6 - 7 องศาแ ละค่ามาตรฐานของมุมเทหน้าแว่นจะอยู่ที่ 5 7 องศา หากคลาดเคลื่อนไปจากนี้ อาจส่งผลให้ใส่แว่นไม่สบายตาหรือเห็นพื้นลอย
  • ระยะห่างระหว่างเลนส์แว่นตาถึงกระจกตา (Vertex distance) ไม่เหมาะสม โดยทั่วไปค่ามาตรฐานของระยะห่างระหว่างเลนส์แว่นตาถึงกระจกตา จะอยู่ที่ 12 14 มม. หากแว่นอยู่ใกล้ หรือห่างจากกระจกตามากเกินไป ก็สามารถส่งผลต่อกำลังค่าสายตาบนเลนส์แว่นได้

 

4. กรอบแว่นไม่เหมาะสม

  • กรอบแว่นใหญ่เกินไป (Over Size) ทำให้เห็นภาพมัวรอบ ๆ เลนส์ได้ง่ายขึ้น
  • แว่นหลวมเกินไป ทำให้แว่นไหลตกบ่อย ส่งผลให้จุดกึ่งกลางของเลนส์ ไม่ตรงกับจุดกึ่งกลางของรูม่านตา
  • แว่นคับเกินไป ขาแว่นจะกดบริเวณขมับทำให้ปวดศีรษะได้

 

5. โครงสร้างเลนส์ไม่เหมาะสมกับค่าสายตา หรือพฤติกรรมการใช้สายตา

  • สายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงเยอะเกินไป การใช้เลนส์พื้นฐานแบบทั่วไปอาจไม่เพียงพอ อาจต้องเปลี่ยนไปใช้เลนส์ที่ขัดแบบพิเศษ อย่าง Aspheric หรือ Double aspheric หรือ Freeform เลนส์แทน
  • พฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น บางคนใช้งานคอมพิวเตอร์วันละหลายชั่วโมง หรือชอบเล่นกีฬา ดังนั้นอาจจำเป็นต้องเลือกเลนส์ที่มีโครงสร้างที่ละเอียดมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของแต่ละบุคคล

 

 

 

วิธีลดอาการเวียนหัว หลังตัดแว่นสายตาใหม่

   

1. ค่อย ๆ ปรับสายตากับแว่นตัวใหม่

   หากได้แว่นมาใหม่ ควรเริ่มใส่เเว่นตัวใหม่ตอนพรุ่งนี้เช้า เพราะช่วยให้ปรับตัวเข้ากับค่าสายตาใหม่ได้เร็วขึ้น แต่ในช่วงแรกควรจำกัดชั่วโมงการใส่ หากรู้สึกตึงตาให้ถอดแว่นพักสักครู่หนึ่งก่อน จนอาการดีขึ้นแล้วค่อยใส่ใหม่ เพื่อให้สมองค่อย ๆ ปรับตัว หากใส่เลนส์สองชั้นหรือเลนส์โปรเกรสซีพเป็นครั้งแรก  อาจต้องค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมการเหลือบมองเล็กน้อย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 2 - 3 สัปดาห์

2. หากผ่านไป 3 4 สัปดาห์ แต่ยังมีอาการเวียนศีรษะอยู่

   ควรตรวจสอบจุดประกอบแว่นใหม่อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมปรับดัดทรงแว่นให้เหมาะสมกับใบหน้าและการสวมใส่ นอกจากนี้ควรตรวจเช็กค่าสายตาใหม่อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าค่าสายตาที่วัดได้นั้นถูกต้องตรงกับความเป็นจริง และเลือกโครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมกับค่าสายตา รวมถึงพฤติกรรมการใช้สายตาของแต่ละคน เพื่อให้ได้แว่นที่ใส่สบาย มองเห็นชัด และช่วยลดปัญหาอาการเวียนหัว หรือปวดตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ)

 


 

 

สรุป

      อาการใส่แว่นตัวใหม่แล้วเวียนศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อย สามารถพบได้ทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ใครที่ตัดแว่นใหม่ ใส่แล้วเวียนหัว จำเป็นต้องมีการปรับตัวเสมอ ซึ่งเวลาในการปรับตัวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ทั้งนี้หากผ่านไป 3 4 สัปดาห์แล้ว ยังคงมีอาการเหล่านี้อยู่และไม่มีทีท่าว่าจะหายเป็นปกติ แนะนำว่าควรกลับไปที่ร้านตัดแว่น เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

หากกำลังมองหาแว่นตาใหม่สักอัน Dr.Ouise Eye Clinic มีจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญ  ที่จะช่วยวิเคราะห์ค่าสายตาอย่างละเอียด ตัดแว่นใหม่ให้ตรงกับค่าสายตา พร้อมเลือกเลนส์สายตา และกรอบแว่นคุณภาพสูง เพื่อช่วยลดปัญหาเวียนหัวหลังใส่แว่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณสวมแว่นใหม่ได้อย่างมั่นใจและสบายตามากขึ้น

  

 

 

 

 

 

บทความโดย

หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย

จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

 

 

 

สาขาของเรา

  • DR.OUISE EYE CLINIC 
    ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
    เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.

 

  • DR.OUISE EYE SPECIALIST
    ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B 
    เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
    เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.

 

 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
แว่นโปรเกรสซีฟ
เคยไหมกับการต้องยกหนังสือไกลสุดแขนกว่าจะอ่านออก หรือต้องคอยถอด ๆ ใส่ ๆ แว่นตาให้วุ่นวาย? อาการเหล่านี้แหละที่เป็นสัญญาณเตือนว่า แว่นโปรเกรสซีฟ อาจเป็นทางออก
8 มิ.ย. 2025
 ค่าสายตาผิดปกติ มีกี่แบบ? เข้าใจง่าย พร้อมวิธีแก้ไขที่ควรรู้
เคยรู้สึกไหมว่าช่วงนี้สายตาเริ่มเปลี่ยนไป? มองไกลเบลอ มองใกล้ต้องหยีตา..
28 พ.ค. 2025
วัดสายตา
วัดสายตาด้วยตนเอง เป็นการทดสอบและประเมินประสิทธิภาพในการมองเห็น..
27 มี.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy