หนังตาตก รีบปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนเสียความมั่นใจ
หนังตาตก รีบปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนเสียความมั่นใจ
หลายครั้งที่มองตัวเองในกระจก หลายคนอาจสังเกตว่าหนังตาดูตกลงมามากกว่าปกติ จนทำให้ดวงตาดูอ่อนล้า ไม่สดใส และที่สำคัญคืออาจกระทบต่อการมองเห็นโดยที่เราไม่รู้ตัว ปัญหาหนังตาตกไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงามหรือความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการทำงานของกล้ามเนื้อและผิวหนังรอบดวงตาที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจ อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัว บทความนี้หมอพาไปทำความรู้จักกับ ภาวะหนังตาตก ตัวการที่ทำให้เสียความมั่นใจ และกระทบการมองเห็นโดยตรง
ภาวะหนังตาตกคืออะไร? มีกี่ประเภท ความรู้จากจักษุแพทย์
หนังตาตก คือภาวะที่เปลือกตาด้านบนตกลงมาคลุมบริเวณตาดำมากกว่าปกติ ส่งผลให้ชั้นตาดูไม่เท่ากันทั้งสองข้าง โดยผู้ป่วยมักมีอาการเปลือกตาหนัก ลืมตาไม่ขึ้น และในบางรายอาจกระทบต่อการมองเห็นได้โดยตรง ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของภาวะหนังตาตก ได้ 2 ประเภทหลัก ดังนี้ง
1. ผิวหนังที่เปลือกตาหย่อน (Dermatochalasis) : เป็นภาวะที่ขอบตาอยู่ในตำแหน่งปกติ แต่เกิดจากผิวหนังเปลือกตา หรือผิวหนังบริเวณหน้าผากหย่อนคล้อยลงมาปิดดวงตา โดยภาวะดังกล่าวมักเป็นเพิ่มมากขึ้นตามอายุ หรือเกิดจากการสะสมของรังสี UV ที่ทำลายผิวหนัง รวมถึงภาวะอักเสบของเนื้อเยื่อรอบดวงตา
2. หนังตาตก (Ptosis) : มักเป็นภาวะที่ขอบตาหย่อนลงจากตำแหน่งปกติ เกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาบนอ่อนแรง ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงรู้สึกหนักตาและลืมตาได้ยากกว่าปกติ
จักษุแพทย์ไขความต่าง หนังตาตกตั้งแต่กำเนิดและในผู้สูงวัย ต่างกันอย่างไร
ภาพจาก : www.drmilindnaik.com
1. หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด : มักเกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาพัฒนาได้ไม่เต็มที่ จนเกิดเป็นพังผืดดึงรั้งเปลือกตา และบางส่วนเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทมาตั้งแต่เกิด
- อาการ : หนังตาตกข้างเดียวหรือสองข้าง ชั้นตาชัดไม่เท่ากัน ลืมตาได้ไม่เต็มที่ และในบางรายอาจมีภาวะตาเข หรือตาขี้เกียจร่วมด้วย
- การตรวจวินิจฉัย : เด็กมักแหงนหน้ามองสิ่งต่าง ๆ เนื่องจากเปลือกตาตกลงต่ำกว่าปกติ จนบดบังการมองเห็น
- การรักษา : ส่วนใหญ่รักษาด้วยการผ่าตัด โดยแพทย์จะประเมินกำลังกล้ามเนื้อที่เหลือ หากกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก อาจต้องอาศัยแรงจากกล้ามเนื้อหน้าผากผ่านการปลูกถ่ายซิลิโคน ในรายที่เปลือกตาปิดบังการมองเห็นจนเสี่ยงตาขี้เกียจ จำเป็นต้องผ่าตัดตั้งแต่เด็ก
ภาพจาก : www.medicalnewstoday.com
2. หนังตาตกเมื่อสูงวัย : ผิวหนังที่เปลือกตาหย่อน (Dermatochalasis) ภาวะนี้มักเกิดจากความเสื่อมของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อรอบดวงตา เมื่อใช้งานมานานกล้ามเนื้อยืดหรือหลุดลอก ทำให้ดวงตาดูเล็กลง นอกจากนี้ยังพบได้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคหลอดเลือดสมอง หรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันลูกตา ยาแก้แพ้ รวมไปถึงผู้ที่มีการอักเสบรอบผิวดวงตา โดนแสงแดดเป็นระจำ และขยี้ตาบ่อย ๆ ก็อาจมีความเสี่ยงเช่นกัน
- อาการ : ผิวหนังเปลือกตาหย่อนลงมาบังตา ลืมตาไม่ขึ้น ต้องใช้นิ้วช่วยดันจึงจะมองได้ปกติ และบางครั้งพบรอยพับผิวหนังมากขึ้น จนเกิดการระคายเคืองเมื่อน้ำตาไหลหรือมีเหงื่อ
- การตรวจวินิจฉัย : พบผิวหนังหย่อนคล้อย มีรอยพับมากขึ้น มักยักคิ้วตลอดเวลา และอาจเห็นเนื้อเยื่อไขมันแทรกออกมาจากเปลือกตา ทำให้เปลือกตาดูบวมขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย จำเป็นต้องวินิจฉัยแยกโรคกับโรคทางเส้นประสาททำงานผิดปกติอื่น ๆ
- การรักษา : แม้ไม่มีวิธีป้องกันได้ 100% แต่สามารถลดความเสี่ยงของโรคได้ เช่น
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา
2.ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี
3.ใส่แว่นกันแดดเพื่อป้องกันรังสี UV
4.งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพื่อลดการเหี่ยวย่นก่อนวัย
หนังตาตกแค่ไหน ควรพบจักษุแพทย์?
Tip:
วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ เมื่อมองตรงในกระจก หากเปลือกตาตกลงมาคลุมตาดำเกินไป หรือไม่เท่ากับอีกข้าง ควรไปร้านแว่นโดยจักษุแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย
การรักษาหนังตาตกมีวิธีใดบ้าง ตามคำแนะนำของจักษุแพทย์
ผู้ที่มีหนังตาตกมักมีชั้นตาไม่เท่ากัน จนทำให้รู้สึกเสียบุคลิกภาพและขาดความมั่นใจ อีกทั้งยังมีปัญหาในการลืมตา ทำให้การมองเห็นลดลง โดยเฉพาะในรายที่อาการรุนแรง แต่ถึงอย่างไร ในปัจจุบันก็ยังพอมีแนวทางการรักษาอยู่บ้าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง และการประเมินของแพทย์ โดยแบ่งเป็น 3 วิธีหลัก ได้แก่
- การฉีดฟิลเลอร์ - เติมร่องริ้วรอยบริเวณเปลือกตาล่างและหน้าผาก ทำให้ผิวดูตื้นขึ้น กระชับขึ้น
- การฉีดโบท็อกซ์ยกหางตา - ฉีด Botulinum Toxin Type A ตรงบริเวณใต้ท้องคิ้ว เพื่อช่วยยกหางตาให้ตึงขึ้น
- การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งเปลือกตา - ตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก ช่วยให้เปลือกตากลับมาตึงกระชับ
ในส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาภาวะหนังตาตก มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น เทคนิคที่แพทย์เลือกใช้ ความซับซ้อนของการผ่าตัด และค่าสถานพยาบาล
สรุป
หนังตาตกไม่ใช่เพียงปัญหาด้านความสวยงามหรือบุคลิกภาพเท่านั้น แต่ยังอาจกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันการรักษาภาวะดังกล่าวมีหลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของแต่ละบุคคล หากพบความผิดปกติของดวงตา การเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญ
ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (ร้านแว่นตาหมออุ๊ย) คลินิกศูนย์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก ที่ให้บริการตรวจสุขภาพตา ด้วยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมวางแผนการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล ร่วมกับเครื่องมือทันสมัยที่ช่วยในการวินิจฉัยและติดตามผล ทำให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัย ข่วยให้การมองเห็นในชีวิตประจำวันดีขึ้นกว่าที่เคย
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
https://www.bangkokhospital.com/content/ptosis
https://images.app.goo.gl/ZGzbGfb3yjHAfsHx9
https://www.phyathai.com/th/article/3826-หนังตาตกอย่าปล่อยไว้_
https://www.rattinan.com/droopy-eyelids-wrinkles-under-eye-bags-treatment/
https://theworldmedicalhospital.com/โรคหนังตาตกในผู้สูงอาย/
บทความโดย
หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ
สาขาของเรา
- DR.OUISE EYE CLINIC
ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.
- DR.OUISE EYE SPECIALIST
ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.