ข้อควรรู้ก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ให้เหมาะกับสายตาและไลฟ์สไตล์

ข้อควรรู้ก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ให้เหมาะกับสายตาและไลฟ์สไตล์
แว่นโปรเกรสซีฟ เป็นเลนส์ที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเลนส์ที่ต้องทำความเข้าใจอยู่ไม่น้อย เพื่อให้คุณสามารถปรับตัว และใช้งานได้แบบเต็มประสิทธิภาพ บทความนี้รวบรวมข้อควรรู้และแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจตัดแว่นโปรเกรสซีฟ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การมองเห็นที่ดีที่สุด
รู้จักคุณสมบัติน่าสนใจ ก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) เป็นเลนส์ที่รวมค่าสายตาหลายระยะไว้ในเลนส์เดียว โดยจะมีค่าสายตาสำหรับมองไกลอยู่บริเวณด้านบนของเลนส์ ค่อย ๆ ไล่ค่าสายตาลงมาจนถึงบริเวณกลางเลนส์สำหรับระยะกลาง และส่วนล่างสุดของเลนส์ จะเป็นค่าสายตาสำหรับมองใกล้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องสลับแว่นไปมาหลายคู่ เมื่อต้องมองในระยะที่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเลนส์ชนิดนี้มีการ ไล่ระดับค่าสายตา จากบนลงล่าง จึงทำให้บริเวณด้านข้างของเลนส์ โดยเฉพาะช่วงหัวตาและหางตา อาจเกิดภาพบิดเบี้ยวหรือ Distortion ได้ ซึ่งเป็นลักษณะปกติของเลนส์โปรเกรสซีฟ ภาพที่เกิด Distortion จะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- โครงสร้างและรุ่นของเลนส์
- ค่าสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงของผู้ใช้
- ค่า Addition (Add) หรือค่าความต่างระหว่างค่าสายตามองไกลและมองใกล้
ก่อนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ควรรู้อะไรบ้าง?
1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของเลนส์โปรเกรสซีฟ
- เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่รวมค่าสายตาหลายระยะไว้ในเลนส์เดียว โดยส่วนบนของเลนส์จะเป็นค่าสายตาสำหรับมองไกล มองกลาง และมองใกล้ตามลำดับ
- บริเวณด้านข้างของเลนส์ ทั้งบริเวณหัวตาและหางตา มักจะมีภาพที่ดูมัว ๆ หรือที่เรียกว่า Distortion ซึ่งเกิดจากการขัดเลนส์ให้มีค่าสายตาเปลี่ยนแปลงจากระยะไกลมาสู่ระยะใกล้
2. เลนส์โปรเกรสซีฟไม่สามารถมองได้ทั่วทั้งแผ่นเลนส์
- เนื่องจากด้านข้างจะเป็นบริเวณที่มีภาพ Distortion หากมีการเหลือบตามองบริเวณดังกล่าว มักจะเห็นภาพเบลอ ซึ่งถือเป็นลักษณะปกติของเลนส์ประเภทนี้
- เลนส์โปรเกรสซีฟ ทุกรุ่นและทุกยี่ห้อ ล้วนมีภาพ Distortion ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีบริษัทใดสามารถทำให้ภาพ Distortion หายไปได้ ตั้งนี้ปริมาณของภาพ Distortion จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเลนส์ ค่าสายตาสั้นยาว ค่า
- สายตาเอียง และค่า Addition ของผู้สวมใส่
โดยทั่วไป ยิ่งค่าสายตาสูง พื้นที่ Distortion จะยิ่งเพิ่มขึ้น เช่น กรณีที่ใช้เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นเดิมแต่ค่าสายตาเปลี่ยนไป ภาพ Distortion ด้านข้างอาจจะมากกว่าเดิมได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

3. ควรทดลองใส่เลนส์โปรเกรสซีฟก่อนตัดจริง
- การทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟก่อนตัดจริง จะช่วยให้คุณทำความเข้าใจมุมมองและความรู้สึกของเลนส์แต่ละโครงสร้าง ซึ่งแต่ละร้านตัดแว่นมักมีให้เลือกลองหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แนะนำค่อย ๆ ทำความเข้าใจ เพื่อเลือกเลนส์ที่ชอบที่สุด
- เลนส์โปรเกรสซีฟแต่ละโครงสร้างจะให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ทั้งในด้านมุมมอง ความคมชัด และความนุ่มนวลของการเปลี่ยนระยะการมอง ทั้งนี้ ความพึงพอใจในการมองเห็นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
4. ร้านตัดแว่นจะสอนให้ลูกค้าฝึกใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟเบื้องต้น
- ผู้วัดสายตาจะให้ลูกค้าลองใส่เลนส์ทดลอง และอธิบายวิธีการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ควรเหลือบตามองส่วนไหนของเลนส์เพื่อให้ภาพชัด สอนการเดินขณะใช้งาน ฯลฯ
- การทดลองนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้ว่าชอบหรือไม่ และเลนส์ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันหรือเปล่า หากลูกค้ารู้สึกว่ายังไม่เหมาะสม ก็อาจได้รับคำแนะนำให้เลือกเลนส์ประเภทอื่นที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า เช่น เลนส์เฉพาะทาง เลนส์สองชั้น หรือเลนส์ชั้นเดียว
5. การปรับตัวเมื่อเริ่มใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ
ลูกค้าจำเป็นต้องมีช่วงเวลาในการปรับตัวและฝึกใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟในระยะหนึ่ง โดยทั่วไปประมาณ 2 4 สัปดาห์แรกหลังได้รับแว่น ลูกค้าควรค่อย ๆ ฝึกใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจต้องปรับพฤติกรรมการมองและท่าทางบางอย่าง เพื่อให้เข้ากับลักษณะของเลนส์โปรเกรสซีฟ

6. เลนส์โปรเกรสซีฟอาจไม่เหมาะกับกรอบแว่นบางประเภท
แม้เลนส์โปรเกรสซีฟจะสามารถใช้งานได้กับกรอบแว่นหลายรูปแบบ แต่ก็มีบางประเภทของกรอบที่อาจไม่เหมาะสมนัก เช่น
- กรอบแว่นที่มีความโค้งหน้าแว่นเยอะเกินไป
กรอบที่มีความโค้งเยอะ จะทำให้แสงที่ผ่านเลนส์เกิดการหักเหเปลี่ยนไปจากปกติ ส่งผลให้ผู้สวมใส่รับรู้พื้นที่ Distortion ได้ชัดเจนขึ้น และอาจรู้สึกไม่สบายตา อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าต้องการใช้กรอบลักษณะนี้จริง ๆ อาจต้องเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับกรอบโค้งโดยเฉพาะ - กรอบแว่นขนาด Oversize
ยิ่งหน้าเลนส์มีขนาดใหญ่ พื้นที่ Distortion ด้านข้างก็จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้สวมใส่อาจเห็นภาพวูบวาบหรือไม่สบายตาได้ - กรอบแว่นที่ชิดใบหน้ามากเกินไป
หากเลนส์อยู่ใกล้ตาเกินไป จะทำให้เหลือบตามองส่วนล่างของเลนส์ (บริเวณสำหรับอ่านหนังสือหรือระยะใกล้) ได้ลำบาก - กรอบแว่นที่ไม่มีแป้นจมูก หรือมีขาแป้นจมูกที่ไม่มั่นคง
รวมถึงกรอบที่มีข้อจำกัดในการปรับดัด เพราะจะทำให้ปรับตำแหน่งได้ยาก อาจเกิดปัญหาแว่นลื่นหรือเลื่อนตกบ่อย อีกทั้งยังอาจชิดตาเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อการมองเห็น เพราะตำแหน่งจุดโฟกัสบนเลนส์เปลี่ยนไป
วิธีเตรียมตัวก่อนตัด แว่นโปรเกรสซีฟ
การตัดแว่นโปรเกรสซีฟให้ใส่สบายและมองชัดทุกระยะ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับค่าสายตา แต่ต้องอาศัยความเข้าใจ และการเตรียมตัวที่เหมาะสม เพื่อให้เลนส์ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
1. สำรวจพฤติกรรมการใช้สายตา : ก่อนวัดสายตา ควรสังเกตลักษณะการใช้งานของตนเอง เช่น ใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือวันละกี่ชั่วโมง ต้องอ่านเอกสารหรือทำงานระยะใกล้บ่อยไหม รวมถึงมีกิจกรรมกลางแจ้งหรือขับรถเป็นประจำหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญเลือกโครงสร้างเลนส์ ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
2. พักสายตาก่อนเข้ารับการตรวจ : แนะนำว่าควรพักสายตาอย่างน้อย 1530 นาทีก่อนตรวจ โดยหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือติดต่อกันนาน ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อตาคลายตัว และให้ค่าการวัดสายตาออกมาแม่นยำ
3. นำแว่นสายตาคู่เดิมมาด้วย : หากมีการใส่แว่นประจำ แนะนำว่าควรนำแว่นคู่เก่ามาให้ผู้เชี่ยวชาญดู วิธีนี้จะช่วยให้ทราบพฤติกรรมการใช้งาน และเปรียบเทียบค่าสายตาเดิมกับปัจจุบันได้แม่นยำขึ้น รวมถึงช่วยให้ประเมินได้ว่าปัญหาที่เกิด เช่น มองไม่ชัดหรือเวียนหัว เกิดจากค่าสายตาหรือโครงสร้างเลนส์เดิม
4. เลือกกรอบแว่นที่พอดีกับใบหน้า : กรอบแว่นมีผลต่อประสิทธิภาพของเลนส์โปรเกรสซีฟโดยตรง เพราะกรอบที่ใหญ่หรือโค้งมากเกินไป อาจทำให้ภาพด้านข้างเกิด Distortion ชัดขึ้น ดังนั้นแนะนำว่าควรเลือกกรอบที่มีขนาดพอดี ไม่ชิดหน้าจนเกินไป และสามารถปรับดัดได้สะดวก เพื่อให้ตำแหน่งเลนส์ตรงกับแนวสายตา
5. เตรียมเวลาให้เพียงพอในการตรวจและทดลอง : การวัดสายตาเพื่อตัดเลนส์โปรเกรสซีฟจะละเอียดกว่าการวัดแว่นทั่วไป เพราะต้องตรวจทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ รวมถึงการวัดค่ากึ่งกลางรูม่านตา (PD) และระยะเหลือบตา (Fitting height) ดังนั้นควรเผื่อเวลาในการตรวจอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้การประเมินครบถ้วนที่สุด
6. ถามตอบสิ่งที่สงสัย : หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานหรือโครงสร้างของเลนส์ ควรถามผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อให้เข้าใจวิธีใช้งานอย่างถูกต้องและมั่นใจเมื่อเริ่มใส่จริง

ทำไมต้องตัดแว่นโปรเกรสซีฟกับผู้เชี่ยวชาญ?
การตัดเลนส์โปรเกรสซีฟถือเป็นงานที่ต้องอาศัยทั้ง ความละเอียดและความชำนาญเฉพาะทาง เพราะต้องอิงตำแหน่งการมองจริงของผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระดับสายตา ท่าทางการมอง หรือองศาการสวมแว่น ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกร้านแว่นโดยจักษุแพทย์ ที่มีผู้เชี่ยวชาญให้บริการ ทั้ง จักษุแพทย์ และ นักทัศนมาตร จะช่วยประเมินค่าสายตาอย่างละเอียด รวมถึงแนะนำโครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคน เช่น ผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์บ่อย กับผู้ที่ขับรถเป็นประจำ อาจเหมาะกับเลนส์คนละแบบ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถปรับ จุดศูนย์กลางการมอง (Fitting Point) ให้ตรงกับตำแหน่งการมองจริงของผู้ใช้ เพื่อให้การมองเห็นชัดทุกระยะ และลดอาการเวียนหัวหรือมองไม่ชัดในช่วงแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การตัดแว่นโปรเกรสซีฟไม่ใช่แค่การเลือกเลนส์ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด ความเข้าใจในพฤติกรรมการมอง และการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้แว่นที่สวมใส่สบาย มองเห็นชัดเจนทุกระยะ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตประจำวัน
ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (คลินิกตาหมออุ๊ย) คลินิกศูนย์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานการดูแลระดับมืออาชีพ ตรวจวัดสายตาโดยจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือวัดสายตาที่ทันสมัย เพื่อช่วยออกแบบเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล มาพร้อมเลนส์โปรเกรสซีฟหลากหลายแบรนด์ให้ทดลองก่อนตัดจริง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า เลนส์ที่เลือก จะตอบโจทย์ทั้งด้านการมองเห็น ความสบายตา และความปลอดภัยตลอดการใช้งาน
บทความโดย
หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

สาขาของเรา
- DR.OUISE EYE CLINIC
- ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.
- DR.OUISE EYE SPECIALIST
- ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
- เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.







