แว่นตากันแดด กัน UV ได้ไหม? พร้อมวิธีเช็กจากหมอตา

แว่นตากันแดด กัน UV ได้ไหม? พร้อมวิธีเช็กจากหมอตา
แว่นตากันแดดไม่ได้เป็นเพียง Accessories ที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องดวงตาจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตาที่เป็นอันตราย เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ และจอประสาทตาเสื่อม หากเลือกแว่นที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยป้องกันรังสี UV แต่ยังอาจก่อผลเสียมากกว่าเดิม ดังนั้นการตรวจสอบว่าแว่นกันแดดที่ใช้อยู่สามารถป้องกันรังสี UV ได้จริง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
หมอตาบอกต่อ! รังสี UV อันตรายต่อดวงตาอย่างไร?
รังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่ารังสี UV เป็นแสงธรรมชาติที่ตามนุษย์มองไม่เห็น แต่สามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อดวงตาได้มาก โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ช่วงคลื่นหลัก ได้แก่
- UVA (320400 นาโนเมตร): แสงในช่วงนี้สามารถทะลุผ่านกระจกตาและเลนส์ตาไปถึงจอประสาทตาได้ ทำให้เกิดความเสื่อมของจอประสาทตาในระยะยาว ดังนั้นหากดวงตาของคุณได้รับ UVA สะสมต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาจอประสาทตาเสื่อม ในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ
- UVB (280320 นาโนเมตร): เป็นช่วงรังสีที่อันตรายที่สุดต่อดวงตา เนื่องจากมีพลังงานสูง ทำให้เกิดการอักเสบของกระจกตาแบบเฉียบพลัน (Photokeratitis) คล้ายการถูกแดดเผาที่ผิวหนัง แต่เกิดขึ้นกับดวงตา นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคต้อเนื้อ ต้อกระจก และความขุ่นมัวของเลนส์ตา
- UVC (100280 นาโนเมตร): โดยปกติรังสี UVC จะถูกดูดซับไว้เกือบทั้งหมดโดยชั้นบรรยากาศโอโซน จึงไม่ค่อยมีผลต่อดวงตาในชีวิตประจำวัน แต่หากมีการสัมผัสจากแหล่งกำเนิดเทียม เช่น หลอดฆ่าเชื้อ UV ก็สามารถทำลายกระจกตาได้เช่นกัน
การได้รับรังสี UV ต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อโครงสร้างภายในตา แต่ยังทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยก่อนวัย อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังบริเวณเปลือกตาอีกด้วย ดังนั้นความอันตรายข้างต้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ว่าทำไมแว่นตากันแดดที่ดีต้องมาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันรังสี UV ได้จริง
หมอตาแนะนำ วิธีเช็กแว่นตากันแดดแบบไหน ช่วยป้องกันรังสี UV
1. มองหาสัญลักษณ์ UV400 หรือ 100% UV Protection
ไม่ว่าจะเป็นแว่นตากันแดดทั่วไป หรือแว่นสายตากันแดด หากมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ควรมีสัญลักษณ์ UV400 หรือ 100% UV Protection กำกับอยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB ได้สูงสุดถึง 400 นาโนเมตร ครอบคลุมทุกช่วงคลื่นของรังสี UV

2. ตรวจสอบมาตรฐานสากล
แว่นตากันแดดที่ดี ควรได้รับการรับรองจากหน่วยงานตามมาตรฐานสากล เพื่อช่วยยืนยันว่าแว่นตา ได้ผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ที่เชื่อถือได้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ได้จริง เช่น
- มาตรฐาน CE (Conformité Européenne) ของยุโรป
- ANSI Z80.3 ของสหรัฐอเมริกา
- AS/NZS 1067 ของออสเตรเลีย
3. ใช้เครื่องทดสอบ UV
ร้านแว่นตาที่มีคุณภาพส่วนใหญ่ จะมีเครื่องวัดค่าการกันรังสี UV ของเลนส์ให้บริการ โดยเพียงวางเลนส์บนเครื่อง เครื่องจะอ่านค่าและแสดงผลว่ากัน รังสี UV ได้กี่เปอร์เซ็นต์ วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่แม่นยำ และตรวจสอบได้อย่างชัดเจนที่สุด

4. ระวังเลนส์สีเข้มแต่ไม่กัน UV
หลายคนเข้าใจผิดว่าเลนส์สีเข้มสามารถกันรังสี UV ได้เสมอ แต่ในความจริงแล้วหากแว่นราคาถูกที่ไม่ได้เคลือบสารกัน UV แม้จะมีเลนส์เข้ม ก็ไม่สามารถป้องกันรังสีอันตรายได้ โดยเลนส์แนะนำมีหลายแบบ เช่น
- เลนส์โพลาไรซ์ ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้น
- เลนส์โฟโตโครมิก (เลนส์ปรับแสง) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องสลับการใช้งานระหว่างในร่มและกลางแจ้ง
- เลนส์ที่มีการเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนและสารสะท้อนแสง เพื่อความทนทาน และความสบายในการใช้งาน
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
การเลือกซื้อแว่นตาจากร้านที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาหรือร้านแว่นโดยจักษุแพทย์ คอยให้คำแนะนำ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าแว่นตาที่เลือกเหมาะสมกับสุขภาพตา และสามารถป้องกันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี
6. เลนส์ราคาถูกมักอันตราย
หากเป็นสินค้าจากแบรนด์ดัง ที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป อาจปักธงไว้ก่อนว่าเป็น ของปลอม ซึ่งแว่นกันแดดราคาถูกส่วนใหญ่ มักไม่ผ่านมาตรฐานการผลิต และแม้เลนส์จะมีสีเข้มแต่มักไม่ได้เคลือบสารกัน UV จริง ซึ่งหากใช้งานไปนาน ๆ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้รูม่านตาขยาย ส่งผลให้รังสี UV เข้าสู่ดวงตาได้มากขึ้น ผลลัพธ์คือยิ่งทำร้ายดวงตามากกว่าการไม่ใส่แว่นกันแดดเลย

ช่วงเวลาและสถานการณ์ที่ควรป้องกันรังสี UV คำแนะนำจากหมอตา
หลายคนอาจคิดว่ารังสี UV มีผลเฉพาะในวันที่แดดจัดหรืออยู่กลางแจ้งเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว รังสี UV สามารถเป็นอันตรายต่อดวงตาได้ แม้ในวันที่มีเมฆมากหรือฟ้าครึ้ม เพราะรังสี UV สามารถทะลุผ่านเมฆและหมอกลงมาสู่พื้นดินได้มากถึง 80% ดังนั้นการปกป้องดวงตา จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลา และสถานการณ์ต่อไปนี้
- ช่วงเวลา 10.0016.00 น.
เป็นเวลาที่รังสี UV เข้มข้นที่สุดในแต่ละวัน ดังนั้นการใช้ชีวิตกลางแจ้งในช่วงเวลานี้ เช่น ทำงานกลางแจ้ง ออกกำลังกาย หรือท่องเที่ยว ควรสวมแว่นกันแดดคุณภาพดีทุกครั้ง - ขณะอยู่กลางน้ำหรือทะเล
พื้นผิวน้ำสามารถสะท้อนรังสี UV ได้สูง ส่งผลให้ดวงตาได้รับรังสีเพิ่มขึ้นทั้งจากตรงที่มาจากท้องฟ้า และจากแสงสะท้อนที่ผิวน้ำ จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรให้ความสำคัญกับการสวมแว่นกันแดดที่มีการป้องกัน UV ทุกครั้ง - บนที่สูง เช่น ภูเขา
ยิ่งอยู่บนพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากเท่าไหร่ อากาศจะบางลงและมีการกรองรังสีน้อยลงมากเท่านั้น ส่งผลให้ความเข้มข้นของรังสี UV สูงกว่าพื้นที่ราบถึง 1012% ต่อทุก ๆ ระดับความสูง 1,000 เมตร ดังนั้นนักปีนเขาหรือผู้ที่ท่องเที่ยวบนที่สูง จึงควรสวมแว่นกันแดดเสมอ แม้จะอยู่พื้นที่ที่มีอากาศเย็นก็ตาม
สรุป
การปกป้องดวงตาจากรังสี UV ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสบายตาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการดูแลสุขภาพดวงตาในระยะยาว และเพื่อป้องกันโรคตาที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับรังสีอย่างต่อเนื่อง เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ หรือจอประสาทตาเสื่อม ดังนั้นการเลือกแว่นกันแดด จึงไม่ควรพิจารณาเพียงแค่ดีไซน์หรือสีของเลนส์ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ตลอดจนการเลือกซื้อแว่นจากร้านที่น่าเชื่อถือ และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความเหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะบุคคล
แว่นกันแดดคุณภาพดีคือการลงทุนเพื่อสุขภาพตา หากสนใจแว่นตากันแดดจากหลากหลายแบรนด์ดัง ที่มาพร้อมการรับรองมาตรฐานสากล ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (คลินิกตาหมออุ๊ย) คลินิกศูนย์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก ยินดีให้บริการ พร้อมให้การดูแลโดยจักษุแพทย์และนักทัศมาตรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกการมองเห็นปลอดภัยและคมชัดเสมอ
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ แว่นกันแดดและรังสี UV
Q1: แว่นกันแดดทุกอันสามารถกันรังสี UV ได้จริงหรือไม่?
ไม่ใช่ทุกแว่นกันแดดจะป้องกันรังสี UV ได้หมดครับ ควรเลือกแว่นที่ระบุว่า UV400 หรือ 100% UV Protection ซึ่งสามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ครบถ้วน แว่นราคาถูกที่ไม่ผ่านมาตรฐานอาจกันแสงจ้าได้แต่ไม่กันรังสี UV ซึ่งอาจทำร้ายกระจกตาและเลนส์ตาได้ในระยะยาว
Q2: ถ้าเลนส์เป็นสีเข้ม แปลว่ากัน UV ได้ดีหรือไม่?
สีเข้มของเลนส์ไม่ได้หมายความว่ากัน UV ได้ครับ แว่นที่ไม่มีสารกรองรังสี UV แต่เลนส์เข้มมาก จะยิ่งอันตรายกว่าเดิม เพราะรูม่านตาขยายรับแสงมากขึ้น ควรเลือกเลนส์ที่ผ่านการรับรอง UV Protection จากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ เช่น Essilor, Zeiss, หรือ Hoya
Q3: จะรู้ได้อย่างไรว่าแว่นกันแดดกัน UV ได้จริง?
วิธีเช็กง่ายที่สุดคือดูสัญลักษณ์หรือสติ๊กเกอร์ UV400 บนกรอบหรือกล่อง หรือหากไม่แน่ใจ ควรนำแว่นมาตรวจวัดที่ คลินิกสายตาโดยจักษุแพทย์ เช่น Dr.Ouise Eye Clinic ซึ่งมีเครื่องมือเฉพาะสำหรับทดสอบประสิทธิภาพการกรองรังสี UV ของเลนส์
Q4: ถ้าใส่แว่นสายตาอยู่แล้ว ควรเลือกแว่นกันแดดแบบไหน?
สามารถเลือกได้หลายแบบ เช่น
1.เลนส์เปลี่ยนสี (Photochromic) ที่ปรับเข้มอ่อนตามแสงอัตโนมัติ
2.คลิปออนกันแดด สำหรับผู้ใช้แว่นสายตา
3.เลนส์กันแดดสายตา (Prescription Sunglasses) ที่ตัดพิเศษตามค่าสายตาโดยจักษุแพทย์ จะช่วยให้ทั้งกัน UV และมองเห็นชัดในเวลาเดียวกันครับ
Q5: แสง UV ส่งผลเสียต่อดวงตาอย่างไร?
การสัมผัสรังสี UV ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ
1.ต้อกระจก
2.ต้อเนื้อ
3.จอประสาทตาเสื่อม
4.ผิวหนังรอบดวงตาไหม้หรือคล้ำ ดังนั้นควรป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยแว่นกันแดดที่มีคุณภาพและตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
อ้างอิง (References)
American Academy of Ophthalmology. (2020, July 28). How to Choose Sunglasses That Protect Your Eyes. https://www.aao.org/eye-health/tips-prevention/sunglasses-protection
World Health Organization. (2017). Ultraviolet radiation and the INTERSUN Programme. https://www.who.int/uv/
Mayo Clinic. (2021, June 30). Sun safety: Know the basics of UV protection. https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/sun-safety/art-20045190
บทความโดย
หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

สาขาของเรา
- DR.OUISE EYE CLINIC
- ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.
- DR.OUISE EYE SPECIALIST
- ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
- เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
- เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.







