แชร์

เลนส์แว่นตามีกี่ชนิด? ชวนทำความเข้าใจก่อนตัดแว่นที่คลินิกตา

อัพเดทล่าสุด: 4 ธ.ค. 2025
56 ผู้เข้าชม

เลนส์แว่นตามีกี่ชนิด? ชวนทำความเข้าใจก่อนตัดแว่นที่คลินิกตา

 

         หลายคนที่กำลังจะ ตัดแว่นครั้งแรก มักรู้สึกสับสน กับเลนส์แว่นตาที่มีหลายประเภทจนเลือกไม่ถูก และมักเกิดคำถาม ว่าเราควรเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับสายตาและการใช้งานจริง อยู่ใช่ไหมคะ วันนี้หมออุ๊ยพามาทำความเข้าใจ แนวทางการเลือกเลนส์แว่นตา แบบละเอียดแต่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณเลือกได้อย่างมั่นใจ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตัดแว่นเลยค่ะ

 


คลินิกตาชวนทำความรู้จัก Index หรือความหนาบางของเลนส์

 

       Index คือค่าดัชนีหักเหของแสงที่กำหนดความหนาของเลนส์โดยตรง หากค่าสายตาสั้นหรือยาวมาก ควรเลือกเลนส์ Index สูง (1.67 1.74) เพราะช่วยให้เลนส์บาง เบา และดูสวยงาม หากค่าสายตาไม่มาก แนะนำ เลือก Index ปกติ (1.50 1.60) ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่าเลนส์ย่อบาง หรือ High Index Lens เป็นทางเลือก ซึ่งเลนส์ประเภทนี้ ถูกออกแบบมาให้บางกว่าเลนส์มาตรฐานทั่วไป แม้จะใช้กับค่าสายตาสูง โดยที่คุณภาพการมองเห็นก็ยังเทียบเท่ากับเลนส์ที่มีความหนา โดยตัวอย่างขนาดเลนส์ย่อบางที่ใช้กันในตลาด ได้แก่

  • 1.50 = เลนส์มาตรฐานทั่วไป (ไม่ย่อบาง)
  • 1.53 1.59 = กลุ่มเลนส์นิรภัย เช่น Polycarbonate / Trivex (เน้นความเหนียว ทนต่อแรงกระแทก)
  • 1.60 = เริ่มบาง เหมาะกับสายตา -3.00 ขึ้นไป
  • 1.67 = บางมาก เหมาะกับค่าสายตาสูง -6.00 ขึ้นไป
  • 1.74 = บางที่สุดในกลุ่มเลนส์แว่นสายตาในปัจจุบัน

 

 

 

 

ข้อดีของเลนส์ย่อบาง

  • ทำให้เลนส์ ดูบางลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในผู้ที่มีสายตาสั้นมาก ซึ่งปกติจะมีเลนส์หนาและขอบชัด
  • น้ำหนักเบา ใส่ได้นานโดยไม่กดจมูก หรือทำให้แว่นไหล
  • เพิ่มความสวยงามและความมั่นใจเวลาใส่ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานคู่กับกรอบแว่นแบบบางหรือไร้ขอบ

ข้อจำกัดของเลนส์ย่อบาง

  • เลนส์ Index สูง อาจมีราคาสูงกว่าแบบทั่วไป
  • หากไม่ได้เคลือบป้องกันรอย ผิวเลนส์อาจเปราะบางกว่าเลนส์ทั่วไป
  • เลนส์บางบางรุ่นอาจสะท้อนแสงมากกว่า หากไม่เคลือบมัลติโค้ต

 

  

ความรู้จากคลินิกตา เลนส์แว่นตามีกี่แบบ?

ประเภทของเลนส์ตาม "การแก้ไขการมองเห็น"

 

 

1. เลนส์ชะลอการเพิ่มค่าสายตาในเด็ก

แว่นชะลอสายตาสั้นในเด็ก ถูกออกแบบเพื่อ ชะลอการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นในเด็ก โดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะ เช่น D.I.M.S. (Defocus Incorporated Multiple Segments) หรือ H.A.L.T. (Highly Aspherical Lenslet Target) ที่ช่วยกระจายโฟกัสของภาพ ให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของดวงตา

 

ข้อดี :

  • หากใส่อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอัตราการเพิ่มของสายตาสั้นได้จริงในระยะยาว
  • ปลอดภัย ไม่ต้องใช้ยา และสามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กวัยประถม
  • ช่วยให้เด็กมีคุณภาพการมองเห็นที่ดีขึ้นในระยะยาว

 

ข้อจำกัด :

  • ต้องสวมใส่ทุกวันและติดตามผลกับจักษุแพทย์อย่างต่อเนื่อง
  • เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง อาจมีราคาสูงกว่าเลนส์เด็กทั่วไป
  • เด็กที่ไม่เคยสวมแว่นมาก่อน อาจต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยช่วงแรก

 

 

 

2. เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision)

เป็นเลนส์พื้นฐาน ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียงได้ใน "ระยะเดียว" เช่น สำหรับมองไกล หรือสำหรับอ่านหนังสือ

 

ข้อดี:

  • ให้ภาพที่คมชัด สวมใส่ง่าย
  • ราคาเข้าถึงง่าย มีหลายรุ่นให้เลือก
  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใส่แว่น หรือผู้ที่ต้องการแว่นสำรอง

ข้อจำกัด:

  • ใช้ได้เพียงระยะเดียวเท่านั้น หากต้องมองไกลและใกล้ต้องมีแว่นแยก
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีภาวะสายตายาวตามวัย เพราะจะต้องสลับแว่นบ่อย

 

 

 

 

 

3. เลนส์ผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา (Relax Lens)

ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ดวงตาทำงานน้อยลง เหมาะเป็นอย่างยิ่ง กับผู้ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ดิจิทัลต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น อ่านหนังสือ หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยมีโซนกำลังสายตาที่ช่วยลดการเพ่งในระยะใกล้

 

ข้อดี:

  • ลดอาการล้าตา ปวดตา หรือมึนศีรษะ จากการเพ่งนาน ๆ
  • ช่วยให้มองหน้าจอหรืออ่านหนังสือได้นานขึ้นอย่างสบายตา
  • เหมาะกับวัยเรียน วัยทำงาน และผู้ที่ยังไม่ถึงวัยสายตายาว

ข้อจำกัด:

  • ต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยในช่วงแรก เพราะเลนส์มีโซนกำลังต่างกัน
  • ราคาสูงกว่าเลนส์ชั้นเดียวทั่วไป

 

 

 

4. เลนส์คอมพิวเตอร์หรือออฟฟิศ (Office Lens)

เป็นเลนส์เฉพาะบุคคล ที่ออกแบบมาเพื่อมองเห็นชัดในระยะใกล้ถึงกลาง เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน หรือการอ่านเอกสาร

 

ข้อดี:

  • ช่วยลดอาการ ปวดตา ปวดคอ และไหล่ จากการก้มเงยบ่อย
  • มีโซนการมองที่สบายตา และเหมาะกับท่านั่งทำงาน
  • ช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานได้จริง

ข้อจำกัด:

  • มองไกลไม่ชัด เพราะออกแบบมาเฉพาะระยะใกล้ถึงกลางเท่านั้น
  • ไม่เหมาะกับการขับรถหรือใช้งานกลางแจ้ง

 

 

 

 

5. เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)

แว่นตาเลนส์โปรเกรสซีฟ เป็นเลนส์อัจฉริยะที่ออกแบบมา เพื่อแก้ปัญหาสายตายาวตามวัยโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถปรับค่าสายตาได้ต่อเนื่องตั้งแต่ระยะไกล ระยะกลาง ไปจนถึงระยะใกล้ โดยไม่จำเป็นต้องสลับแว่นหลายอัน ช่วยให้มองเห็นชัดเจนในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะดูหนัง ทำงาน อ่านหนังสือ หรือเล่นกีฬา พร้อมช่วยเสริมบุคลิกภาพ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น เพราะไม่มีรอยต่อให้สังเกตเห็นเหมือนเลนส์สองชั้นแบบเก่า 

 

ข้อดี:

  • มองเห็นชัดทุกระยะ โดยไม่ต้องสลับแว่น
  • ช่วยให้การมองเป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง
  • เพิ่มความมั่นใจ ไม่เห็นรอยต่อเลนส์เหมือนแว่นสองชั้น
  • ปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ เช่น แบบเน้นอ่านหนังสือ หรือเน้นขับรถ

ข้อจำกัด:

  • ต้องอาศัยการวัดสายตา และคำนวณตำแหน่งเลนส์ที่แม่นยำจากร้านแว่นโดยจักษุแพทย์
  • ช่วงแรกต้องฝึกการมองให้ชินกับโซนของเลนส์
  • ราคาเริ่มต้นสูงกว่าเลนส์ทั่วไป แต่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ระยะยาว

 

 

ประเภทของเลนส์เพื่อ "การปกป้องสุขภาพดวงตา"

 

 

 

 

1. เลนส์กรองแสงสีฟ้า

ช่วยบรรเทาอาการปวดล้าดวงตา ปวดศีรษะ จากการใช้หน้าจออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน นอกจากนี้การเลือกเลนส์กรองแสงสีฟ้า ที่มีสีเลนส์อมเหลืองนิด ๆ ยังช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ และลดแสงรบกวนจากหน้าจอได้ด้วย

 

ข้อดี:

  • ลดแสงสีฟ้าที่เป็นสาเหตุของอาการปวดตา ตาล้า และนอนไม่หลับ
  • เหมาะกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือจอ LED เป็นเวลานาน
  • ป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตาในระยะยาว

ข้อจำกัด

  • บางรุ่นอาจมีโทนสีเหลืองอ่อนเล็กน้อย
  • ไม่สามารถทดแทนเลนส์ป้องกันรังสี UV ได้ทั้งหมด

 

 

ภาพจาก : www.lentiamo.co.uk

 

 

2. เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ (Photochromic)

เป็นเลนส์ที่สามารถปรับความเข้มอ่อนของสีเลนส์ได้อัตโนมัติ เมื่อใช้งานในอาคารหรือที่ร่ม ตัวเลนส์จะเป็นสีอ่อนปกติ แต่เมื่อสัมผัสกับแสงแดด แสง UV หรือใช้งานกลางแจ้ง ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวก และถนอมสายตาได้ในแว่นอันเดียว

 

ข้อดี:

  • ปรับสีเข้มอัตโนมัติเมื่อโดนแสงแดด พร้อมลดความจ้า
  • ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องพกแว่นกันแดดอีกอัน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ทั้งในร่มและกลางแจ้งบ่อย

ข้อจำกัด:

  • สีเปลี่ยนช้ากว่าเล็กน้อยเมื่อกลับเข้าที่ร่ม
  • หากใช้งานรถยนต์ที่ติดตั้งกระจกกัน UV แว่นจะไม่เปลี่ยนสีในรถยนต์

 

 

 

 

 

3. เลนส์ทำสี ปรอท และโพลาไรซ์

เลนส์โพลาไรซ์ คือเลนส์ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ที่เป็นแสงกระจายตัวที่สะท้อนจากพื้นผิวต่าง ๆ เช่น น้ำ ผิวถนน กระจก หรือโลหะ ทำให้มองเห็นไม่ชัดและก่อให้เกิดอาการล้าดวงตาได้ง่าย โดยเลนส์ชนิดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง เช่น ขณะขับรถ ตกปลา เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือต้องเผชิญกับหิมะที่สะท้อนแสง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุจากแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ ที่อาจทำให้ตามืดชั่วขณะได้อีกด้วย

 

ข้อดี:

  • ตัดแสงสะท้อนจากพื้นถนนและน้ำ เหมาะกับผู้ขับรถหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ช่วยให้มองเห็นสีสันชัดเจนขึ้นและลดแสงจ้า
  • มีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย ดูเท่และแฟชั่นได้ในตัว

ข้อจำกัด:

  • ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในที่ร่มหรือกลางคืน
  • บางรุ่นมีราคาแพงกว่าเลนส์ปกติ

 

 


ปรึกษา ตัดแว่นที่คลินิกตา กับหมออุ๊ย จักษุแพทย์เฉพาะทาง


 

  

การเสริมประสิทธิภาพของเลนส์ ที่คลินิกตา เพื่อการมองเห็นที่ดีกว่า 

 

1. การเคลือบผิวเลนส์ (Coating)


ข้อดี:

  • เพิ่มความทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน ฝุ่น และน้ำเกาะ
  • ลดแสงสะท้อน เพิ่มความคมชัดในการมอง
  • เคลือบกันฝ้าหรือกันแบคทีเรียได้ เหมาะกับผู้ใส่หน้ากากหรือคนทำงานด้านสุขภาพ

ข้อจำกัด:

  • ต้องดูแลรักษาให้ดี หากเช็ดผิดวิธีอาจทำให้สารเคลือบเสีย
  • เคลือบพิเศษบางแบบมีอายุการใช้งานจำกัด (ประมาณ 23 ปี)


2. เลนส์เฉพาะบุคคล (Personalized Lens)

 

ข้อดี:

  • วัดค่าสายตาและตำแหน่งสายตามจริงของผู้สวมใส่
  • ให้ภาพคมชัดและเป็นธรรมชาติสูงสุด
  • ลดอาการปวดตาในผู้ที่ใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ

ข้อจำกัด:

  • ต้องตรวจวัดด้วยเครื่องมือเฉพาะในคลินิกตาเท่านั้น
  • เนื่องจากมีการออกแบบเฉพาะบุคคล อาจทำให้ราคาสูงกว่าเลนส์ทั่วไป

 

3. เลนส์ขัดละเอียด 0.01 Diopter

 

ข้อดี:

  • ความละเอียดสูง ช่วยให้มองเห็นคมชัดสมจริง
  • ลดความเพี้ยนของภาพและทำให้ปรับตัวกับเลนส์ได้ง่าย

ข้อจำกัด:

  • ใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการผลิต
  • ราคาสูงกว่าเลนส์ขัดมาตรฐาน

 

 

 

4. เลนส์ปริซึม (Prism Lens)

เป็นเลนส์ชนิดที่ช่วยปรับทิศทางของแสงเข้าสู่จอประสาทตาได้อย่างถูกต้อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน และสบายตามากขึ้น

ข้อดี:

  • ช่วยแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาทำงานไม่สัมพันธ์ เช่น เห็นภาพซ้อน
  • ทำให้การมองเห็นสมดุล และลดอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

ข้อจำกัด:

  • ต้องได้รับการวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ก่อนเท่านั้น
  • ต้องผลิตเฉพาะบุคคล ไม่สามารถใช้ของสำเร็จรูปได้


 

 

  

Dr.Ouise Eye Clinic

คลินิกจักษุครบวงจร กรุงเทพ-รังสิต / ปทุมธานี / รามอินทรา (แฟชั่นไอส์แลนด์)

บริการ ตรวจสุขภาพตา,ตรวจวัดสายตา, แก้ไข สายตาสั้น, สายตายาว, ตัดแว่น, ตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ, แว่นชะลอสายตาสั้นในเด็ก นำโดย (หมออุ๊ย) จักษุแพทย์ เฉพาะทาง และ ทีมนักทัศนมาตร

นัดหมาย หรือปรึกษาเพิ่มเติม : LINE

 

 

 

สรุป

การเลือกเลนส์แว่นตาที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้มองเห็นชัดเจนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา และเพิ่มความสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรจำเป็นต้องได้รับการตรวจวัดสายตาโดยจักษุแพทย์ และรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คุณได้เลนส์ที่ตรงกับความต้องการ และเหมาะกับปัญหาสายตามากที่สุด

การเลือกคลินิกเพื่อตรวจวัดและตัดแว่นตาอย่างมืออาชีพ คือจุดเริ่มต้นของการมองเห็นที่ชัดและสบายในทุกวัน ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (คลินิกตาหมออุ๊ย) คลินิกศูนย์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก เราให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน ให้บริการโดยจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการใช้เครื่องมือวัดสายตาที่มีความแม่นยำสูงสุด และเลนส์คุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำให้เลือกครบทุกความต้องการเรื่องสายตา มองชัดขึ้น สบายตากว่าเดิม พร้อมให้คุณมั่นใจในทุกมุมมอง

   

  

 

Dr.Ouise พร้อมช่วยดูแลใส่ใจในสุขภาพดวงตาของทุกคน เพื่อประสิทธิภาพการมองเห็น ที่คมชัดยิ่งขึ้นกว่าเดิม

   



 

 

บทความโดย

 แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย (หมออุ๊ย)

จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

 



แพทย์หญิงวชิรา สนธิไชย (หมออุ๊ย)

  • จักษุแพทย์เฉพาะทาง อนุสาขากระจกตาและแก้ไขค่าสายตา (Cornea and Refractive surgery)
  • ชำนาญด้านการรักษาโรคตา เช่น โรคตาแห้ง โรคกระจกตาโก่งย้วย และการแก้ไขปัญหาค่าสายตาผิดปกติ
    ด้วยการจ่ายเลนส์แว่นสายตา เลเซอร์แก้ไขค่าสายตา เช่น เลสิก ผ่าตัดใส่เลนส์เสริม
    จากที่คุณหมอมีประสบการณ์กว่า 10 ปี กับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านค่าสายตาผิดปกติรวมถึงโรคตา
  • ประกอบกับทางบ้านคุณหมอเองมีกิจการด้านแว่นตา จึงทำให้หมอเองนำความชำนาญทั้ง 2 ด้านมาผสานกัน
    ก่อตั้งเป็น "ร้านแว่นตา Dr. Ouise Eye Specialist"น้นการจ่ายเลนส์แว่นตาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพตาเฉพาะบุคคล เพื่อให้การมองเห็นที่ชัดเจนและสบายตา โดยมีเป้าหมายขอเป็นด่านแรกในการดูแลแบบองค์รวมสุขภาพตาเบื้องต้นให้กับชาวไทย เข้าถึงการตรวจตา โดยไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล

    ประวัติการศึกษา

  • แพทยศาสตร์บัณฑิต ศิริราชพยาบาล, มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วุฒิบัตรสาขาจักษุวิทยา, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • วุฒิบัตรอนุสาขากระจกตา และผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล

    ปัจจุบัน

  • อาจารย์จักษุแพทย์ หน่วยกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • ผู้ก่อตั้ง Dr.Ouise Eye Clinic และ Dr.Ouise Eye Specialist
  • ทีมบริหาร ร้านแว่นตา the NEXT

 

สาขาของเรา

 

Dr.Ouise Eye Clinic

DR.OUISE EYE CLINIC

ที่ตั้ง: ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์
อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130

เวลาเปิดปิด: 10.0018.00 น.

โทร: 090-224-5168

Dr.Ouise Eye Specialist Fashion Island

DR.OUISE EYE SPECIALIST

ที่ตั้ง: ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230

เวลาเปิดปิด: 10.0022.00 น.

โทร: 095-386-6361


บทความที่เกี่ยวข้อง
แว่นชะลอสายตาสั้นในเด็ก คืออะไร? ดีจริงไหม พร้อมเปรียบเทียบแบรนด์ยอดฮิต
แว่นชะลอสายตาสั้นในเด็ก ทางเลือกสำคัญสำหรับยุคที่เด็กใช้หน้าจอมากขึ้น ทำให้ค่าสายตาเพิ่มเร็วกว่าที่คิด
5 ธ.ค. 2025
เลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะกับใคร? รวมคำแนะนำสำหรับคนวัย 40
เลนส์โปรเกรสซีฟเหมาะกับใคร? และไม่เหมาะกับใคร บทความนี้รวมครบทุกคำตอบ พร้อมคำแนะนำที่คนวัย 40 ควรรู้
22 พ.ย. 2025
ใส่แว่นสายตายาวมานาน เปลี่ยนมาใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ ไม่ยากอย่างที่คิด
สำหรับผู้ที่ใส่แว่นสายตายาวมานาน การเปลี่ยนมาใช้ เลนส์โปรเกรสซีฟ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
21 พ.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy