เลนส์โปรเกรสซีฟ VS เลนส์เฉพาะทาง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับสายตา

เลนส์โปรเกรสซีฟ VS เลนส์เฉพาะทาง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับสายตา
สวัสดีค่ะ! หมออุ๊ย แพทย์หญิงวชิรา สนธิไชย นะคะ
ช่วงหลังนี้ หมอเจอคนไข้หลายท่านเลยค่ะที่สับสนและถามว่า "ระหว่างเลนส์โปรเกรสซีฟกับเลนส์เฉพาะทาง แบบไหนดีกว่ากัน?"
จริงๆ แล้ว เลนส์ทั้งสองแบบนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือช่วยแก้ปัญหา สายตายาวตามวัย (Presbyopia) ได้ดีเยี่ยม แต่มี รูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ค่ะ!
หลายท่านเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟไปแล้ว แต่กลับรู้สึกว่าใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ไม่สบายตาเท่าที่ควร
บางคนใช้เลนส์เฉพาะทางอยู่ แต่ก็ต้องถอดแว่นสลับไปมาเวลามองไกล ทำให้ไม่สะดวกในชีวิตประจำวัน
หมอจึงคิดว่าถ้าเราได้ทำความเข้าใจ โครงสร้างและการใช้งาน ของเลนส์ทั้งสองแบบนี้ให้ชัดเจนก่อน จะช่วยให้การตัดสินใจเลือกเลนส์คู่ใหม่เป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก และทำให้ชีวิตประจำวันของเราสบายขึ้นเยอะเลยค่ะ!
เลนส์โปรเกรสซีฟและเลนส์เฉพาะทาง แตกต่างกันอย่างไร
เลนส์โปรเกรสซีฟ คืออะไร?
แว่นตาโปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) คือเลนส์ที่รวมค่าสายตาทั้งระยะไกล ระยะกลาง ระยะใกล้ ไว้ในเลนส์เดียวอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีขอบเส้นแบ่งเหมือนเลนส์สองชั้นสมัยก่อน ข้อดีคือช่วยให้มองได้ครบทุกระยะโดยไม่ต้องถอดแว่น เปลี่ยนแว่น หรือพกหลายอัน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่มีปัญหาสายตายาวได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของเลนส์โปรเกรสซีฟ
1. ใช้แว่นเดียวครบทุกระยะ เพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวัน
ข้อดีที่โดดเด่นที่สุดของเลนส์โปรเกรสซีฟ คือการรวมค่าสายตาทุกระยะไว้ในเลนส์เดียว หากผู้ใช้งานสามารถปรับตัวกับแว่นได้แล้ว จะสามารถมองเห็นทุกระยะ ได้โดยไม่ต้องสลับแว่นไปมา
- โซนมองไกล (Distance Zone) อยู่บริเวณด้านบนของเลนส์ เหมาะสำหรับการใช้งานระยะไกล เช่น ขับรถ ดูป้ายถนน มองทิวทัศน์ ฯลฯ
- โซนระยะกลาง (Intermediate Zone) อยู่บริเวณกลางเลนส์ ใช้สำหรับมองระยะกลาง เช่น ใช้งานคอมพิวเตอร์ หน้าจอ หรือสนทนากับคนในระยะประมาณ 60100 ซม.
- โซนระยะใกล้ (Near Zone) อยู่บริเวณล่างสุดของเลนส์ เหมาะสำหรับอ่านหนังสือ ใช้มือถือ หรือทำงานที่ต้องใช้ความละเอียด
2. ภาพต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ ไม่มีเส้นแบ่งเหมือนเลนส์สองชั้น
เลนส์โปรเกรสซีฟจะไล่ค่าสายตาจากไกล กลาง ใกล้ แบบนุ่มนวล ทำให้ภาพไม่สะดุด และไม่มีขอบที่ทำให้ภาพกระโดด ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าคนอื่นไม่เห็นรอยต่อของเลนส์ด้วย สวย สบาย และดูเป็นธรรมชาติค่ะ

3. ช่วยแก้ปัญหาภาพบิดเบี้ยวได้ดียิ่งขึ้น
ในเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นพรีเมียม ที่ตัดที่ร้านแว่นโดยจักษุแพทย์ จะถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่นFreeForm Design, Personalization ตามรูปหน้าและกรอบแว่น, การปรับโครงสร้างแสงให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ ภาพด้านข้างบิดเบี้ยวน้อยลง ปรับตัวได้เร็วขึ้น และช่วยลดอาการเวียนศีรษะ เมื่อต้องหันซ้ายขวาเร็ว ๆ ได้ด้วยค่ะ
4. ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องสลับแว่นไปมา
สำหรับใครที่ทำกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ขับรถ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช้งานมือถือ ทำงานบ้าน หรือแม้แต่เดินช็อปปิ้ง จะพบว่าเลนส์โปรเกรสซีฟตอบโจทย์มาก ๆ เพราะไม่ต้องคอยปรับตัว หรือสลับแว่นตลอดเวลา ช่วยให้ใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นเยอะ
5. เลือกได้หลายรุ่น หลายช่วงราคา และปรับให้เหมาะกับงบประมาณ
ปัจจุบันเลนส์โปรเกรสซีฟมีให้เลือกหลายราคาค่ะ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น รุ่นกลาง ไปจนถึงรุ่นพรีเมียม ให้เลือกตามงบประมาณ ซึ่งเลนส์แต่ละรุ่นจะมีเทคโนโลยี และประสิทธิภาพที่ต่างกัน แต่ในแง่ของการมองเห็น ก็ยังช่วยปรับคุณภาพการมองให้ดีขึ้นเหมือนกัน สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอที่ดูก่อนค่ะ หมอจะช่วยตรวจวัดสายตา พร้อมประเมินแบบละเอียด เพื่อช่วยปรับให้เหมาะกับค่าสายตา ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณ
ข้อจำกัดของเลนส์โปรเกรสซีฟ
- โซนระยะใกล้ไม่กว้างพอสำหรับงานคอมพิวเตอร์หนัก ๆ
เพราะเลนส์โปรเกรสซีฟถูกออกแบบมาให้ใช้งาน หลายระยะ ในเลนส์เดียว ดังนั้นพื้นที่สำหรับมองใกล้และกลางจะถูกแบ่งกับพื้นที่มองไกล จะต้องขยับศีรษะบ่อย ๆ เพื่อหาจุดโฟกัส และทำให้การมองจอคอมอาจไม่สบายนัก ถ้าต้องใช้งานนานหลายชั่วโมง

- ภาพบิดเบี้ยวด้านข้าง (Distortion) ในบางรุ่น
โดยเฉพาะรุ่นพื้นฐานหรือรุ่นที่ไม่ได้ออกแบบเฉพาะบุคคล มักมีภาพบิดเบี้ยว ที่ทำให้ต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก แต่ในปัจจุบันมีทางเลือกรุ่นพรีเมียม ที่ช่วยลดภาพบิดเบี้ยวด้านข้างได้มากที่สุด แม้จะหันศีรษะไปมาเร็ว ๆ หรือเดินขึ้นลงบันได ภาพที่ได้ก็ยังคมชม เป็นธรรมชาติ
- จำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัว
ผู้ที่เริ่มใส่แว่นครั้งแรก อาจมีปัญหาตัดเลนส์โปรเกรสซีฟแล้วใส่ไม่ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว อาจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงแรกที่ยังปรับตัวไม่ได้เท่านั้น เช่น เวลาหันเร็ว ๆ อาจรู้สึกภาพโคลงเล็กน้อย เวียนศีรษะ ไม่คุ้นชินกับโซนการมอง ฯลฯ นั่นเป็นเพราะสมองต้องเรียนรู้ ตำแหน่งการมองที่เหมาะสม ในแต่ละระยะก่อน เมื่อผ่านไปสักระยะการใช้งานจะง่ายขึ้นมาก และถึงแม้รุ่นพรีเมียมช่วยลดปัญหานี้ได้มาก แต่ก็ยังต้องมีช่วงปรับตัวอยู่เหมือนกันค่ะ
เลนส์เฉพาะทางคืออะไร?
เลนส์เฉพาะทางที่หมอหมายถึงในบทความนี้ คือ เลนส์สำหรับการทำงานเฉพาะด้าน เช่น เลนส์สำหรับทำงานคอมพิวเตอร์ (Office / Workspace / Computer Lens) เป็นเลนส์ที่ถูกออกแบบ เพื่อมองใกล้และมองกลางเป็นหลัก (ตั้งแต่ช่วงประมาณ 40 ซม. ถึง 3 เมตร) ผู้สวมใส่สามารถปรับสายตาหรือปรับตัวเพื่อใช้งานได้ง่ายมาก เพราะโครงสร้างเลนส์ออกแบบโดยการตัดโซนมองไกลออก เพื่อเพิ่มพื้นที่อ่านหนังสือ หรือมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กว้างขึ้น ทำให้ภาพมีความบิดเบือนด้านข้างน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเลนส์โปรเกรสซีฟ หรือเลนส์หลายระยะ ที่ออกแบบมาสำหรับคนสายตายาว
ข้อดีของเลนส์เฉพาะทาง
1. มุมมองกว้างมากในระยะใกล้กลาง สบายที่สุดสำหรับทำงานหน้าจอ
ข้อดีเด่นที่สุดของเลนส์เฉพาะทาง คือพื้นที่มองชัดในระยะทำงาน กว้างที่สุด เมื่อเทียบกับเลนส์ทุกประเภท ทำให้การอ่านเอกสาร หรือทำงานหน้าจอคอม มีความรู้สึกสบายตา ไม่ต้องเล็งหาจุดโฟกัส และลดการก้มเงยศีรษะได้มาก เป็นเลนส์ที่คนทำงานออฟฟิศมักชอบมาก เพราะสามารถใช้คอมได้นานโดยไม่ล้า

2. ลดอาการปวดตา ปวดคอ ไหล่เพราะไม่ต้องก้มเงยหามุมโฟกัส
เลนส์เฉพาะทางจะวางจุดโฟกัสใกล้และกลางไว้ในตำแหน่งที่ ตรงธรรมชาติการนั่งทำงาน ทำให้ท่านั่งเป็นธรรมชาติ ลดอาการล้าตา บรรเทาปวดคอและไหล่จากการก้มเงยหามุมมอง ข้อดีจุดนี้ทำให้หลายคนที่ใช้คอมนาน ๆ รู้สึกต่างทันทีตั้งแต่วันแรกที่ใส่ค่ะ
3. ภาพคมชัดและนิ่งกว่า เมื่อใช้ในระยะแบบออฟฟิศ
เนื่องจากไม่ต้องแบ่งพื้นที่ให้มองไกล เลนส์เฉพาะทางจึงให้ภาพนิ่ง โฟกัสง่าย คมชัด และเวลาอ่านตัวหนังสือหรือดูรายละเอียดเล็ก ๆ จะรู้สึกสบายตามาก
4. ปรับตัวง่าย ใช้เวลาไม่นาน
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ มักปรับตัวได้แทบจะทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังใส่ เพราะโครงสร้างเลนส์ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานจริงของงานออฟฟิศ 100%
ข้อจำกัดของเลนส์เฉพาะทาง
- มองไกลไม่ชัด ไม่เหมาะสำหรับใช้เดิน
เพราะเลนส์เฉพาะทางถูกออกแบบให้ชัดในระยะ 40200 ซม. เป็นหลัก ดังนั้นการใช้งานในระยะไกลกว่า 23 เมตรขึ้นไป ภาพจะมีความเบลอทันที ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเดินในห้าง ขับรถ หรือดูระยะไกล เลนส์ชนิดนี้จะไม่ตอบโจทย์ จำเป็นต้องพกแว่นอีกอันสำหรับใช้นอกอาคาร
- ต้องเปลี่ยนแว่นเมื่อเปลี่ยนกิจกรรม
เช่น ใส่เลนส์เฉพาะทางตอนทำงาน พอเดินไปคุยกับลูกค้าไกล ๆ จะเริ่มมองไม่ชัด ทำให้บางคนรู้สึกไม่สะดวกถ้าต้องลุกเดินบ่อย ๆ ในที่ทำงาน และต้องสลับไปใช้แว่นอีกอันแทน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความต่อเนื่องระหว่างกิจกรรม
เช่น เดินทางไปประชุม ดูจอประชุมไกล ๆ สลับการมองใกล้ไกลตลอดเวลา เพราะเลนส์เฉพาะทางมี ระยะการมองที่จำกัด หากในแต่ละวันคุณมีกิจกรรมที่ต้องอาศัยการมองแบบต่อเนื่อง เลนส์ชนิดนี้อาจยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
- ค่าสายตาบางแบบอาจได้ประสิทธิภาพไม่เต็มที่
เช่น ผู้ที่มีค่าสายตาเอียงสูงมาก หรือมีค่าสายตายาวตามวัย (Addition) สูง ๆ เลนส์เฉพาะทางบางรุ่นอาจตอบโจทย์ได้ไม่ดีเท่าเลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟ - เลนส์เฉพาะทาง แต่ละแบบเหมาะกับใคร?
เลนส์โปรเกรสซีฟเหมาะกับใคร?
- คนที่ต้องการแว่นเดียวใช้ได้ทุกระยะ
- คนเดินทางบ่อย ต้องการความสะดวก ไม่อยากพกแว่นหลายอัน
- ผู้ที่ใช้งานทั่วไป เช่น อ่านหนังสือ ใช้มือถือ ทำงานบ้าน
- ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนระยะการมองตลอดเวลา
เลนส์เฉพาะทางเหมาะกับใคร?
- คนทำงานคอมพิวเตอร์ 410 ชั่วโมงต่อวัน
- คนที่ต้องโฟกัสระยะใกล้กลางเป็นหลัก
- คนที่ใส่โปรเกรสซีฟแล้วโซนใกล้แคบไป
- ช่างฝีมือ งานศิลปะ งานละเอียด
- ผู้สูงอายุที่ต้องการความสบายตาในระยะใกล้
เปรียบเทียบความแตกต่าง เลนส์โปรเกรสซีฟ - เลนส์เฉพาะทาง แบบเข้าใจง่าย

Dr.Ouise Eye Clinic
คลินิกจักษุครบวงจร กรุงเทพ-รังสิต / ปทุมธานี / รามอินทรา (แฟชั่นไอส์แลนด์)
บริการ ตรวจสุขภาพตา,ตรวจวัดสายตา, แก้ไข สายตาสั้น, สายตายาว, ตัดแว่น, ตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ, แว่นชะลอสายตาสั้นในเด็ก นำโดย (หมออุ๊ย) จักษุแพทย์ เฉพาะทาง และ ทีมนักทัศนมาตร
นัดหมาย หรือปรึกษาเพิ่มเติม : LINE

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ - เฉพาะทาง
Q1: ทำไมใส่โปรเกรสซีฟแล้วมองจอคอมไม่สบาย?
A: เลนส์โปรเกรสซีฟถูกออกแบบให้ใช้งานได้ทุกระยะในแว่นเดียว แต่พื้นที่ของโซนกลางและใกล้ ที่ใช้ดูจอคอมพิวเตอร์ จะมีขนาดค่อนข้างแคบ ทำให้ผู้ใช้ต้องหาจุดชัดอยู่บ่อยครั้ง เช่น ต้องก้มหรือเงยศีรษะเล็กน้อย หรือหมุนหน้าเพื่อให้สายตาเข้าโซนที่ชัดที่สุด เมื่อทำงานคอมนานหลายชั่วโมง กล้ามเนื้อคอและไหล่อาจล้า เพราะท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ เท่าเลนส์ที่ออกแบบมาเฉพาะงานใกล้ หมอเลยแนะนำว่า ถ้าทำงานจอหนัก ๆ วันละหลายชั่วโมง เลนส์เฉพาะทางจะให้ภาพกว้างกว่า สบายตา และลดอาการล้าสายตาได้ดีกว่าค่ะ
Q2: เลนส์เฉพาะทางใช้ขับรถได้ไหม?
A: โดยทั่วไปหมอคิดว่า ไม่เหมาะค่ะ เพราะเลนส์เฉพาะทาง ถูกออกแบบให้ชัดในระยะใกล้ถึงกลางเท่านั้น เช่น ดูคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ ประชุมออนไลน์ หรือเดินทำงานในห้อง พอออกไปมองไกล เช่น ขับรถ มองถนน มองป้าย เลนส์จะไม่ชัดเลย อาจเกิดอันตรายได้ เพราะโฟกัสถูกจำกัดระยะ หากต้องการแว่นสำหรับขับรถจริง ๆ หมอแนะนำให้ใช้เลนส์แว่นตาปกติ หรือเลนส์โปรเกรสซีฟมากกว่า
Q3: จำเป็นต้องมีแว่นสองอันไหม?
A: ไม่จำเป็นสำหรับทุกคนค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบชีวิตและชั่วโมงทำงานผ่านหน้าจอ โดยหมอจะประเมินจากลักษณะการใช้งานจริง เช่น
- ถ้าทำงานคอมนานวันละ 6-10 ชั่วโมง
- ต้องอ่านข้อมูลเยอะ ประชุมออนไลน์ตลอดวัน
- มีอาการล้า แสบตา ปวดคอไหล่เป็นประจำ
กลุ่มนี้มักจะสบายกว่าเมื่อมีแว่นเฉพาะทางเพิ่มอีกหนึ่งอัน เพราะเลนส์เฉพาะทางจะให้ภาพใกล้กลางชัดเต็มพื้นที่ ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องปรับท่าทางมาก แต่ถ้าคนไหนใช้งานหน้าจอแค่ช่วงสั้น ๆ หรือไม่ได้อยู่หน้าคอมทั้งวัน เลนส์โปรเกรสซีฟเพียงอันเดียวก็เพียงพอค่ะ
Q4: ควรเลือกเลนส์แบบไหนดี ถ้ามีงบจำกัดและมีปัญหาสายตายาวตามวัย?
A: ให้พิจารณาจากไลฟ์สไตล์ที่จำเป็นที่สุด:
- ถ้าจำเป็นต้องใส่แว่นเดิน, ขับรถ และมองไกลตลอดเวลา เลนส์โปรเกรสซีฟคือตัวเลือกที่จำเป็น เพราะครอบคลุมทุกระยะ แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นก็ตาม
- ถ้าเน้นการทำงานอ่านหนังสือหรือหน้าจอเป็นหลัก และไม่จำเป็นต้องมองไกล (เช่น ทำงานที่บ้าน/ออฟฟิศ) เลนส์เฉพาะทางอาจให้ความสบายตาในระยะใกล้/กลางได้ดีกว่าในราคาที่ใกล้เคียงกัน
สรุป
หมอขอสรุปส่งท้ายสั้นๆ เลยนะคะ เลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแว่นเดียวใช้งานได้ทุกระยะ ทั้งใกล้กลางไกล สะดวกในชีวิตประจำวัน แต่โซนมองใกล้อาจแคบและต้องปรับตัวเล็กน้อย ในขณะที่เลนส์เฉพาะทาง จะให้ความสบายสูงสุดเมื่อทำงานระยะใกล้กลาง เช่น คอมพิวเตอร์หรือเอกสาร เพราะมีพื้นที่โฟกัสกว้างและลื่นตา แต่ไม่สามารถใช้มองไกลหรือใช้นอกงานได้ดีนัก ดังนั้น การเลือกเลนส์ควรอิงจากงานที่ทำในแต่ละวันเป็นหลัก เพื่อให้ได้ทั้งความชัดเจน ความสบายตา และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดค่ะ
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าเลนส์แบบไหนเหมาะกับการใช้งานจริงของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์เฉพาะทางสำหรับคอมพิวเตอร์ หรือเลนส์ชนิดอื่น ๆ หมอแนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาที่คลินิกได้เลยนะคะ ที่ Dr.Ouise Eye Clinic (หมออุ๊ย) คลินิกศูนย์เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟและเลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก เรามีจักษุแพทย์ นักทัศนมาตร และผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์ครบทีม พร้อมประเมินการใช้สายตา ไลฟ์สไตล์ และช่วยออกแบบเลนส์ให้แบบเฉพาะบุคคล พร้อมการตรวจวัดที่แม่นยำ ทดลองเลนส์ได้ก่อนตัดสินใจ และเลือกเลนส์ที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคุณ
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ

แพทย์หญิงวชิรา สนธิไชย (หมออุ๊ย)
- จักษุแพทย์เฉพาะทาง อนุสาขากระจกตาและแก้ไขค่าสายตา (Cornea and Refractive surgery)
- ชำนาญด้านการรักษาโรคตา เช่น โรคตาแห้ง โรคกระจกตาโก่งย้วย และการแก้ไขปัญหาค่าสายตาผิดปกติ
ด้วยการจ่ายเลนส์แว่นสายตา เลเซอร์แก้ไขค่าสายตา เช่น เลสิก ผ่าตัดใส่เลนส์เสริม
จากที่คุณหมอมีประสบการณ์กว่า 10 ปี กับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านค่าสายตาผิดปกติรวมถึงโรคตา - ประกอบกับทางบ้านคุณหมอเองมีกิจการด้านแว่นตา จึงทำให้หมอเองนำความชำนาญทั้ง 2 ด้านมาผสานกัน
ก่อตั้งเป็น "ร้านแว่นตา Dr. Ouise Eye Specialist" เน้นการจ่ายเลนส์แว่นตาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพตาเฉพาะบุคคล เพื่อให้การมองเห็นที่ชัดเจนและสบายตา โดยมีเป้าหมายขอเป็นด่านแรกในการดูแลแบบองค์รวมสุขภาพตาเบื้องต้นให้กับชาวไทย เข้าถึงการตรวจตา โดยไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล
ประวัติการศึกษา
- แพทยศาสตร์บัณฑิต ศิริราชพยาบาล, มหาวิทยาลัยมหิดล
- วุฒิบัตรสาขาจักษุวิทยา, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- วุฒิบัตรอนุสาขากระจกตา และผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
ปัจจุบัน
- อาจารย์จักษุแพทย์ หน่วยกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา โรงพยาบาลรามาธิบดี
- ผู้ก่อตั้ง Dr.Ouise Eye Clinic และ Dr.Ouise Eye Specialist
- ทีมบริหาร ร้านแว่นตา the NEXT
สาขาของเรา

DR.OUISE EYE CLINIC
ที่ตั้ง: ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์
อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
เวลาเปิดปิด: 10.0018.00 น.
โทร: 090-224-5168

DR.OUISE EYE SPECIALIST
ที่ตั้ง: ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
เวลาเปิดปิด: 10.0022.00 น.
โทร: 095-386-6361


